July 23, 2018 21:14
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
1.ยาคุมกำเนิดชนิดกินแบ่งเป็น 2 อย่างคร่าวๆ คือ ยาคุมกำเนิดแบบปกติ และยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ซึ่งในที่นี้จะพูดถึงยาคุมกำเนิดแบบปกติคะ
เม็ดยาคุมกำเนิด(Oral contraceptive pill หรือ Birth control pill) คือยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน) ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการตั้งครรภ์โดยยับยั้งการตกไข่ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีสภาพไม่พร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน และทำให้มูกที่ปากมดลูกมีความเหนียวข้นขึ้น จนเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนตัวของอสุจิให้ไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ โดยจะแบ่งเป็นยาคุมกำเนิด เป็นชนิดต่างๆดังนี้
1.ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive – COC) เป็นยาคุมกำเนิดที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนรวมกันในเม็ดเดียว ซึ่งแยกออกเป็น 2 แบบ (3 ชนิด) คือ
1.แบบที่มีฮอร์โมนทั้งสองชนิดเท่ากันทุกเม็ด (Monophasic (one-phase) pills) เป็นชนิดที่ประกอบด้วยเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนในขนาดคงที่เท่ากันทุกเม็ด ใน 1 ชุดจะมี 21 เม็ด ยาชนิดนี้จะเป็นที่นิยมใช้มากที่สุดคะ เนื่องจากใช้ง่ายและได้ผลดี
2.แบบที่ฮอร์โมนทั้งสองชนิดไม่เท่ากัน โดยต่างกันเป็น 2-3 ระยะใน 1 ชุด
-ชนิด 2 ระยะหรือยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดสองระยะ (Biphasic (two-phase) pills) จะประกอบด้วยเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนในปริมาณต่างกัน 2 แบบ เพื่อเลียนแบบการหลั่งฮอร์โมนของร่างกาย ในช่วงต้นรอบเดือนจะมีเอสโตรเจนสูงกว่าโปรเจสโตเจน ส่วนช่วงปลายรอบเดือนจะมีโปรเจสโตเจนมากกว่าเอสโตรเจน ซึ่งจะมี 2 สี คือ 7 เม็ด และ 15 เม็ด
-ชนิดสามระยะ (Triphasic (three-phase) pills) จะประกอบด้วยเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนในปริมาณที่ต่างกัน 3 แบบ เพื่อเลียนแบบการหลั่งฮอร์โมนของร่างกายให้มากที่สุด โดยจะมีเอสโตรเจนต่ำอยู่ 2 ช่วง คือ ช่วงต้นและช่วงปลายรอบเดือน ส่วนกลางเดือนจะมีปริมาณเอสโตรเจนมากที่สุด ส่วนโปรเจสโตเจนจะมีปริมาณต่ำในช่วงต้นรอบเดือนและสูงสุดในช่วงปลายรอบเดือน จะมี 3 สี คือ 6 เม็ด 5 เม็ด และ 10 เม็ด รวมเป็น 21 เม็ด
2. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestrogen-only pills – POP, Mini pills) จะมีโปรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียว เป็นยาคุมกำเนิดที่ทำออกมาเพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน มีกลไกการออกฤทธิ์ทำให้มูกบริเวณปากมดลูกเหนียวข้นมากขึ้น (อสุจิผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้ยาก) เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงและฝ่อไปจนไม่เหมาะกับการฝังตัว ช่วยลดการเคลื่อนที่ของไข่ตามท่อนำไข่ และยับยั้งไม่ให้ไข่ตกโดยการควบคุมแบบย้อนกลับ และยับยั้งการหลั่งฮอร์โมน FSH และ LH ยาคุมชนิดนี้ในหนึ่งแผงจะมี 28 เม็ด กินได้ทุกวันโดยไม่ต้องหยุด เมื่อกินหมดแล้วก็กินแผงใหม่ต่อได้เลย ส่วนใหญ่กินแล้วจะไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน (เพราะไม่มีเอสโตรเจน) แต่อาจมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอบ้าง หรือประจำเดือนอาจขาดโดยไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ได้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยา และการกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว จะมีโอกาสในการตั้งครรภ์สูงกว่าการกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมทำให้ไม่เป็นที่นิยมใช้
หากแนะนำให้ใช้ แนะนำชนิดที่ 1 มากที่สุดเนื่องจากง่ายต่อการใช้งาน มีหลายยี่ห้อเช่นยาสมิน (Yasmin), ยาส (Yaz), ไดแอน (Diane), แอนนา (Anna), เมอซิลอน (Mercilon), เมลลิแอน (Meliane), มาวีลอน (Marvelon), ไซเลส (Cilest), ไกเนร่า (Gynera) โดยจะมีเป็นแผง 21 จะต้องหยุดยา 7 วันก่อนเริ่มแพงใหม่ และ 28 เม็ด(เพิ่มเม็ดแป้งเพื่อที่จะไม่ต้องหยุดกินยา 7 วันก่อนเริ่มแพงใหม่)ค่ะ หากสามารถรับประทานได้อย่างสม่ำเสมอ จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงมากะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ในเวลา 1 ปีค่ะ
**ยังมีข้อแนะนำอื่นๆอีก ที่เป็นประเด็นปลีกย่อย เช่น การคุมกำเนิดขณะให้นมบุตร แนะนำให้ใช้ยาแบบ progestin only หรือคนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง (anticardiolipin) หรือโรคหัวใจ แนะนำให้หลีกเลี่ยงยาที่ทีเอสโตรเจน เป้นต้น เป็นต้นค่ะ ดังนั้น ถ้าคนไข้ไม่แน่ใจเรื่องการเริ่มยาหรออเลือกยา สามารถสอบถามเภสัชกรหรือแพทย์เมื่อไปติดต่ขอซื้อยาได้ค่ะ
2.สิวอุดตัน มีสองประเภทค่ะ คือสิวอุดตันแบบหัวเปิด (หัวสีดำ) และแบบหัวปิด (หัวสีขาวค่ะ) เกิดจากการผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติค่ะ มักพบบริเวณใบหน้า ลำคอและหลัง (บริเวณที่ทีต่อมไขมันมากค่ะ) วิธีการรักษาคือ
1.ต้องรักษาความสะอาดค่ะ ล้างหน้าอย่างน้อยวันละสองครั้ง รวมถึงสิ่งที่ต้องสำผัสใบหน้าของเรา เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า หมอน ผ้าห่ม ถ้าสะอาดจะลดการเกิดสิวคะ
2.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า ถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่าย ควรเลือกสำหรับผิวแพ้ง่ายค่ะ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ควรมีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวของเราค่ะ นอกจากเครื่องสำอางที่ต้องเลือกแล้ว แปรง พัฟต่างๆที่ใช้ควรทำความสะอาดบ่อยๆ ป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวค่ะ นอกจากนี้ อาจแนะนำ ผลิตภัณฑ์ สำหรับรักษาสิวด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ผสม AHA หรือ salicylic acid ค่ะ **สิวอุดตันมีความเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนน้อย การใช้ยาคุม อาจจะไม่ได้ช่วยเรื่องการลดสิวมากค่ะ
3.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมันบนใบหน้านะคะ
4.หากมีสิว ไม่ควรแกะเกา จะทำให้เป็นแผลและหลุมและรอยดำค่ะ
5.ออกกำลังกายเป็นประจำค่ะ
6.ทำจิตใจให้แจ่มใสเสมอค่ะ หน้าจะได้ไม่เหี่ยว
7.ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ตามธรรมชาติ ถ้าเราทานเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมหน้าใสใดๆ เพราะในผักผลไม้ก็มีมากอยู่แล้ว แถมไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ด้วยค่ะ
8.นอนพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ
คนไข้ลองปฏิบัติตามดูนะคะ น่าจะช่วยได้พอสมควรค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
1อยากเริ่มยาคุม จะเริ่มยังไงคะ แล้วยี่ห่อไหนดี 2เป็นสิวอัดตันใต้ผิวหนังเยอะมาก รับประทานยาคุมจะช่วยไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)