สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูเซนซิทีฟร้องไห้ง่าย รู้สึกเหมือนเราทำอะไรไปก็ไม่ดี รู้สึกเหมือนมีคนจ้องจะจับผิดเราตลอดเวลา รับมือกับความผิดหวัง ผิดพลาดไม่ได้ มีใครกล่าวถึงเราพาดพิงนิดหน่อยคือจะร้อยไห้ปล่อยโฮออกมาได้เลย รู้สึกเบื่อกับทุกๆวัน อารมณ์แปรปรวน ไม่อยากลุกขึ้นมาทำงาน รู้สึกไม่อยากทำอะไรเลย ทำอะไรก็ผิดไปหมด ไม่มีความมั่นใจ เวลาเกิดปัญหาขึ้นมารู้สึกหมดหวังท้อแท้ ไม่อยากเจอหน้าใคร อยากหนีไป บางทีก็ซ่อนตัวในห้องน้ำในที่ทำงาน เป็นแบบนี้มา3-4เดือนแล้วค่ะ ตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวมันจะดีขึ้น แต่เวลาผ่านไปยิ่งเซนซิทีฟมากขึ้นเรื่อยๆ อาการแบบนี้ถือเป็นอาการป่วยมั้ยคะ จะต้องไปพบจิตแพทย์รักษามั้ยคะ

สวัสดีครับ
การที่มีอาการเศร้า หดหู่ ร้องไห้ง่าย รู้สึกไม่อยากทำอะไร เก็บตัวมากขึ้นนั้นอาจเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

สวัสดีครับ

จากที่เล่าอาการของ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ก็ค่อนข้างตรงกับภาวะของโรคซึมเศร้านะครับ ซึ่งภาวะโรคซึมเศร้านี้เป็นสิ่งที่ควรจะต้องได้รับการช่วยเหลือจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยานะครับ หากว่าอาการเป็นมาเป็นระยะเวลา 3-4 เดือนแล้ว ซึ่งก็ตามที่คุณเข้าใจว่าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสม อาการเหล่านี้อาจจะเพิ่มขึ้น คุณอาจจะมีความไวต่อสิ่งเร้าที่ทำให้อารมณ์คุณแปรปรวนได้มากขึ้นครับ ดังนั้นผมแนะนำว่าคุณควรจะเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินและวินิจฉัย เพื่อที่จะได้รับการช่วยเหลือที่ตรงจุดต่อไปครับ

ทั้งนี้นอกจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว การดูแลตนเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน โดยคุณอาจจะลองเริ่มจากการทานอาหารหรือการนอนหลับให้เพียงพอ ซึ่งจะมีส่วนในการควบคุมอารมณ์เศร้า และเปลี่ยแปลงความคิดบางอย่างของคุณได้ในระยะยาว นอกจากนั้นอยากให้คุณได้ลองใช้เวลาให้กับตัวเราเองเพื่อทำกิจกรรมที่ชอบทำหรือทำแล้วมีความสุขโดยอาจจะเป็นในเรื่องของ การออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง ก็ได้ครับ สิ่งสำคัญก็คือให้เวลาตนเองได้พักผ่อนจิตใจ และดูแลตนเองได้อย่างเต็มที่และสามารถมีสภาพจิตใจที่เข้มแข็งขึ้นได้

สุดท้ายนี้หากต้องการที่จะพูดคุยกับใครซักคนแต่ว่ายังไม่พร้อมที่จะเข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา คุณสามารถโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้นะครับเพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ปลายสายเพื่อรับคำแนะนำหรือข้อมูลที่จะมีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพจิตของคุณครับ หากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ

เบื้องต้นลองทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ

ซึมเศร้าเกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ การรักษาจึงจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้เราควบคุมความคิด อารมณ์และแสดงพฤติกรรมได้สมเหตุผลและเหมาะสมมากขึ้นนะคะ