คำถาม 1 คืออยากสอบถามว่า รับประทานยาคุมแผงแรกแบบ 21 เม็ด รับประทานมาได้ 10วันตรงเวลา หลังจากที่ทานครบมา 10 วันได้มีเพศสัมพันแล้วหลั่งใน มีโอกาสตั้งครรภ์ไหม คำถามที่ 2 ตอนนี้รับประทานยาคุมได้ 10 วันโดยที่ไม่มีปัญหาเรื่องอาการอาเจียน หรือ้วกออกมา เมื่อวานได้รับประทานยาคุมเม็ดที่ 11 ในเวลา 20:00 น ของทุกวัน หลังจากรับประทานยาคุมก็ได้ไปกิน อาหารเยอะเกินไป แล้วได้มีอาการอาเจียนออกมาตอนเที่ยงคืน แบบนี้ทำให้ยาคุมที่เรากินไปตอน 20:00 นออกไหมแล้วต้องกินยาคุมใหม่ไหม คำถามที่ 3 การรับประทานยาคุมร่วมกับยาพารายาลดไข้ยาแก้ไอหรือยาทิฟฟี่ มันสามารถลดประสิทธิภาพของยาคุมไหม

สวัสดีครับ
หมอขอตอบไล่ไปทีละคำถามนะครับ
1. เมื่อรับประทานยาคุมติดต่อกันมามากกว่า 7 วันแล้วยาคุมก็จะเริ่มออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ทำให้การมีเพศสัมพันธ์หลังจากนั้นจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่ผ่านมาครับ

2. โดยปกติแล้วยาคุมมักถูกดูดซึมได้ภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังรับประทาน ถ้าหากรับประทานยาคุมตอน 2 ทุ่มและอาเจียนออกมาตอนเที่ยงคืน ยาคุมก็มักจะถูกดูดซึมไปหมดแล้ว ในกรณีนี้จึงยังถือว่ายาคุมมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ที่ต่อเนื่องอยู่ และไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมใหม่ครับ

3. ยาพาราเซตามอล ยาแก้ไอ และทิฟฟี่ไม่มีผลลดประสิทธิภาพของยาคุมครับ

คำถามที่ 1 คืออยากสอบถามว่า รับประทานยาคุมแผงแรกแบบ 21 เม็ด รับประทานมาได้ 10 วันตรงเวลา หลังจากที่ทานครบมา 10 วันได้มีเพศสัมพันธ์แล้วหลั่งใน มีโอกาสตั้งครรภ์ไหม

ถ้าเริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานนะคะ แต่ถ้าใช้ยาคุมแผงแรกไม่ทันช่วงเวลาดังกล่าว จะต้องรับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ดติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ถ้ารับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ

ในกรณีของผู้ถามจึงไม่น่าจะกังวลนะคะ แนะนำให้รับประทานยาคุมต่อให้ตรงเวลาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ และลดปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอยค่ะ

คำถามที่ 2 ตอนนี้รับประทานยาคุมได้ 10 วันโดยที่ไม่มีปัญหาเรื่องอาการอาเจียน หรืออ้วกออกมา เมื่อวานได้รับประทานยาคุมเม็ดที่ 11 ในเวลา 20:00 น ของทุกวัน หลังจากรับประทานยาคุมก็ได้ไปกิน อาหารเยอะเกินไป แล้วได้มีอาการอาเจียนออกมาตอนเที่ยงคืน แบบนี้ทำให้ยาคุมที่เรากินไปตอน 20:00 น. ออกไหมแล้วต้องกินยาคุมใหม่ไหม

ถ้ามีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยา ก็ควรรับประทานเม็ดใหม่เพื่อทดแทนยาที่อาเจียนออกมานะคะ

แต่ในกรณีนี้ ยามีการดูดซึมไปแล้วค่ะ จึงไม่ต้องรับประทานเพิ่มอีก

คำถามที่ 3 การรับประทานยาคุมร่วมกับยาพารายาลดไข้ ยาแก้ไอ หรือยาทิฟฟี่ มันสามารถลดประสิทธิภาพของยาคุมไหม

ยาหรือสมุนไพรที่มีผลลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด ได้แก่ ยาบางตัวในกลุ่มยากันชัก, ยารักษาวัณโรค, ยาต้านไวรัสเอดส์ และสมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต

ส่วนยาพารายาลดไข้ ยาแก้ไอ หรือยาทิฟฟี่ ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยาคุม จึงสามารถใช้ร่วมกันได้ตามจำเป็นค่ะ

ถึงแม้จะไม่ได้เริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน แต่ถ้าหากรับประทานยาคุมติดต่อกันมามากกว่า 7 วันแล้วก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ก็จะสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัยโดยมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่ผ่านมาครับ

คำถามที่ 4 ถ้าตอนรับประทานยาคุมแผงแรกไม่ได้ทานตอนมีรอบเดือน แต่ทานต่อเนื่องมา 10 วันแล้วมีการหลั่งใน ยาคุมก็คุมได้อยู่และไม่ท้องใช่มั้ยคะ

หากไม่ได้เริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาอาจยับยั้งไข่ที่กำลังจะตกในรอบเดือนนี้ไม่ทัน จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย ไปจนกว่าจะรับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ดติดต่อกันครบ 7 วันก่อนนะคะ

หากผู้ถามไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลยในช่วงที่ยังไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะเมื่อรับประทานยาคุมต่อเนื่องกันครบ 7 วันแล้ว ก็ถือว่ามีผลป้องกันจากยาคุมแผงนี้แล้ว จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ โอกาสตั้งครรภ์จะน้อยมากถ้ารับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอนะคะ