July 13, 2019 21:03
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์ที่ไม่คงที่อยู่บ่อยๆ และอาการดังกล่าวส่งผลให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิต การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างตามมานั้นก็อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางด้านจิตใจบางอย่างได้ครับ เช่น
- โรคซึมเศร้า
- โรคอารมณ์สองขั้วหรือไบโพลาร์
- อารมณ์ที่แปรปรวนตามรอบเดือน
- ความผิดปกติของบุคลิกภาพบางอย่าง
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรลองไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาหรือคำแนะนำในการควบคุมอารมณ์ของตัวเองที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การมีอารมณ์เศร้า อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ จากความแปรปรวนของระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงก่อนมีประจำเดือน
แต่หามีอารมณ์เศร้า โดยที่ไม่มีเหตุผล อาจเกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคทางด้านอารมณ์ เช่น ซึมเศร้า ไบโพลาร์ ก็เป็นไปได้ค่ะ
ในกรณีที่มีอารมณ์เศร้าบ่อยครั้ง ต่อเนื่อง นานเกิน 2 สัปดาห์ อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ง่าย
ดังนั้นในกรณีนี้อยากให้ลองสำรวจอาการด้วยตนเองดูก่อนนะคะ
โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป ก็อาจเข้าข่ายโรคซึมเศร้าได้ค่ะ
ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ
ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามาจะเห็นได้ว่ามีเรื่องความเศร้า ซึ่งอาจจะต้องหาสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้นและลองพูดคุยกับคนในบ้านดูเพื่อให้ผู้ปกครองสามารถพาไปพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาได้ ถึงแม้ว่าในบางโรงพยาบาลจะสามารถให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปหาจิตแพทย์ได้โดยไม่ต้องมีผู้ปกครอง แต่อย่างไรก็ตามการที่ทั้งครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาดูแลเรื่องนี้ร่วมกันก็เป็นสิ่งที่สำคัญครับ
หากหนูมีปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายลองเข้าไปตรวจสอบสิทธิประกันสุขภาพได้ในนี้ครับ
http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
ซึ่งหากเราไปในโรงพยาบาลหรือคลินิกที่เรามีสิทธิประกันสุขภาพอยู่ก็จะทำให้เราแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยครับ แต่หากว่าในโรงพยาบาลฟรือคลินิกที่เรามีสิทธิอยู่ไม่มีบริการด้านจิตเวช ทางคลินิกหรือโรงพยาบาลสามารถทำเรื่องส่งตัวให้เราไปรับบริการได้เช่นกันครับ
นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญแล้ว สิ่งที่สามารถทำได้เองเลยก็คือ การหันกลับมาดูแลตนเองให้มากขึ้น โดยหนูสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาให้ตนเองรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือสนุกผ่อนคลาย และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความรู้สึกเศร้าลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งในเรื่องของความเศร้าหรือความวิตกกังวลที่เกิดขึ้น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หนูจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ ขอเป็นกำลังใจให้หนูสามารถสื่อสารกับที่บ้านได้ และหากมีคำถามเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะ หนูอายุ15ปีค่ะ คือหนูตอนกลางวันจะเป็นคนแบบว่าเบื่อๆ ไม่อยากทำอะไร เริ่มไม่ค่อยถูกใจคนรอบข้าง รำคาญหลายๆอย่างรอบตัว ชอบไปไหนคนเดียว ทำอะไรคนเดียว ชอบพูดแรงๆ ชอบเก็บตัว แต่ก็ถ้าอยู่กับคนสนิท หรือคนที่คุยถูกคอก็จะตลก เฮฮา ปกติเลยค่ะ แต่พอตอนกลางคืน หนูชอบร้องไห้มากๆ ทุกคืนค่ะ ร้องจนหลับบ่อยมากค่ะ แล้วก็ชอบคิดฟุ้งซ่านมากๆเลยค่ะ กังวลกับหลายๆเรื่องไปหมดเลยค่ะ คือหนูไม่อยากจะบอกเลยแต่ว่าหนูชอบกังวล ร้องไห้ เรื่องของแฟนค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน นั่นแหละค่ะ หนูอยากรู้ว่าที่หนูเป็นนี่ ปกติไหมคะ? แล้วถ้าไม่ปกติ หนูควรทำยังไงดี
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)