July 15, 2018 11:31
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการคุมกำเนิดวิธีการใดที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ครับ
แต่วิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพที่สุดในปัจจุบัน คือ การฝังยาคุมกำเนิดครับ โดยการฝังยา 1 ครั้งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 3 หรือ 5 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดยาที่ใช้
และการใช้ยาคุมกำเนิดในรูปแบบฝังนั้นมีโอกาสผิดพลาดเกิดการตั้งครรภ์ได้เพียง 0.05% เท่านั้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ในขณะที่มีเพศสัมพันธุ์เราป้องกันโดยการใส่ถุงยางอนามัย เมื่อเสร็จเเล้ว เรากินยาคุมตามได้ไหมค่ะ ยาคุมแบบไหนดีค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าต้องการใช้วิธีการคุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน มีคำแนะนำ ดังนี้ครับ
1. การใช้ถุงยางอนามัยนั้นจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์อยู่ที่ 85-98% โดยขึ้นอยู่กับว่าใช้งานได้อย่างถูกต้องหรือไม่ และมีการแตกรั่วของถุงยางอนามัยหรือไม่ ถ้าใช้ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ ไม่มีการแตกรั่วก็จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 98% ครับ
นอกจากนี้การใช้ถุงยางอนามัยยังมีข้อดีเหนือกว่าการคุมกำเนิดประเภทอื่นๆ คือ สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ครับ
2. การรับประทานยาคุมกำเนิดนั้นมีให้เลือกใช้ทั้งชนิด 21 เม็ด และ 28 เม็ดจะเลือกใช้ชนิดใดก็ได้ขึ้นอยู่กับความชอบครับ โดยตัวยาจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอยู่ที่ 91-99% โดยขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยา ถ้ารับประทานได้สม่ำเสมอตรงเวลาทุกวัน ประสิทธิภาพก็จะอยู่ที่ประมาณ 99% ครับ
การรับประทานยาคุมกำเนิดให้ได้ผลในการคุมกำเนิดมี 2 วิธี คือ
- รับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมกำเนิดจะให้ผลในการคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรก
- ถ้ารับประทานช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องรับประทานยาคุมต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วันยาจึงจะให้ผลในการคุมกำเนิด โดยในระหว่าง 7 วันแรกของการรับประทานยาจะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยควบคู่กันไปก่อน
การคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนนั้นสามารถใช้ร่วมกันได้ครับ แต่จะต้องใช้ให้ถูกต้องทั้ง 2 วิธี
ข้อดีของการใช้วิธีการคุมกำเนิด 2 วิธีการร่วมกัน คือ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของกันและกัน ทำให้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณมากค้ะหมอ
การที่เราจะมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เรารักหลังจากประจำเดือนมา7วัน(ใส่ถุงยางอนามัย) เสร็จแล้วเรากินยาคุมตาม วิธีนี้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากน้อยเพัยงใด กี่เปอร์เซ็น ยาคุมที่กินตามหลังจากมีเพศสัมพันธุ์ควรกินแบบไหน(ดีที่สุด) คุณหมอมีวิธีการป้องกันการมีเพศสัมพันธุ์ที่ดีกว่าหรือถูกต้องกว่าที่กล่าวมาข้างต้นหรือไม่ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ถ้าเป็นไปได้ขอเคล็ดลับดีๆของคู่รักที่คบกันมาหลายปีในการป้องกันการมีเพศสัมพันธุ์ด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การที่เราจะมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เรารักหลังจากประจำเดือนมา7วัน(ใส่ถุงยางอนามัย) เสร็จแล้วเรากินยาคุมตาม วิธีนี้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากน้อยเพัยงใด กี่เปอร์เซ็น ยาคุมที่กินตามหลังจากมีเพศสัมพันธุ์ควรกินแบบไหน(ดีที่สุด) คุณหมอมีวิธีการป้องกันการมีเพศสัมพันธุ์ที่ดีกว่าหรือถูกต้องกว่าที่กล่าวมาข้างต้นหรือไม่ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ถ้าเป็นไปได้ขอเคล็ดลับดีๆของคู่รักที่คบกันมาหลายปีในการป้องกันการมีเพศสัมพันธุ์ด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาคุมกำเนิดนั้นเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพดีวิธีหนึ่งครับ เนื่องจากถ้ารับประทานยาได้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอแล้ว โอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์จะมีเพียงประมาณ 1% เท่านั้น
ในกรณีที่จะเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดในช่วงที่ช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องรับประทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นหากต้องการเริ่มรับประทานยาคุมในตอนนี้ทันทีก็สามารถเริ่มได้เลยครับ แต่ในช่วง 7 วันแรกของการรับประทานยานั้นถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทุกครั้ง
ยาคุมกำเนิดนั้นโดยหลักๆจะแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ชนิด 21 เม็ด และ 28 เม็ด และแต่บะแบบก็จะมีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ซึ่งจะเลือกใช้ยี่ห้อใดก็ได้ครับ เพราะประสิทธิภาพของยานั้นใกล้เคียงกัน
- ถ้าเลือกรับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ดนั้น เมื่อรับประทานยาคุมหมดแผงแล้วจะต้องเว้น 7 วันก่อนเริ่มรับประทานยาคุมแผงต่อไป เพื่อให้ประจำเดือนมา
- ถ้าเลือกรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ดก็สามารถรับประทานแผงต่อไปติดต่อกันได้ทันทีโดยไม่ต้องเว้นวัน เนื่องจากยา 7 เม็ดสุดท้ายของแผงจะเป็นยาเม็ดแป้ง การรับประทานยาเม็ดแป้งนี้จะเทียบเท่าได้กับการเว้น 7 วันของยาคุมชนิด 21 เม็ด และประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่เว้น 7 วันนี้ครับ
นอกจากยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนแล้วก็ยังมีวิธีคุมกำเนิดอื่นๆให้เลือกใช้อีกครับ เช่น
- ยาฉีดคุมกำเนิด ฉีด 1 ครั้งอยู่ได้นาน 1 หรือ 3 เดือนขึ้นอยู่กับชนิดของยาที่ใช้ ประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยใกล้เคียงกับการใช้ยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนครับ แต่มีข้อดี คือ จะไม่มีปัญหาในการลืมรับประทานยาคุม ทำให้โอกาสเกิดความผิดพลาดจากการคุมกำเนิดมีน้อยลง
- ฝังยาคุมกำเนิด เป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับการคุมกำเนิดในระยะยาว เพราะมีโอกาสที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์ได้น้อยที่สุดถ้าเทียบกับวิธีอื่น ตามที่หมอได้แนะนำไปในคำตอบก่อนหน้านี้
ถ้าสนใจวิธีการคุมกำเนิดที่นอกเหนือจากการรับประทานยาและใช้ถุงยางอนามัย ก็แนะนำให้ไปติดต่อที่โรงพยาบาลที่สะดวกเพื่อขอรับบริการได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อยากทราบวิธีการป้องกันการมีเพศสัมพันธุ์ แบบมีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ มีวิธีไหนบ้าง เห็นบางคู่คบกันหลายปีมาก มีเพศสัมพันธุ์กันบ่อย เเต่ไม่ท้องงี้ค่ะ พอมีวิธีไหนบ้างค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)