September 03, 2018 10:31
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงไป มีความเศร้าหรือหงุดหงิดง่ายขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตนั้นอาจเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ครับ แต่ควรจะเกิดขึ้นในระดับที่เหมาะสมตามบริบทของสังคม
แต่ถ้าอาการดังกล่าวเป็นรุนแรง มีอารมณ์ที่แสดงออกมาอย่างมากเกินควร หรือส่งผลให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน หรือการทำงาน ก็อาจมีสาเหตุมาจากการปรับตัวที่ผิดปกติ(Adjustment disorder) ได้ครับ
นอกจากนี้ก็ยังอาจต้องแยกจากอาการของโรคที่มีความใกล้เคียงกันอย่างโรคซึมเศร้าด้วย
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วย การมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการร่วม ได้แก่
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- ไม่มีสมาธิ ความคิดความจำแย่ลง
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อร่วมกับอาการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน หรือการทำงานก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าของตนเองดูก่อนได้โดยการทำแบบทดสอบ 9Q ตามลิงค์นี้ครับ
https://www.dmh.go.th/test/download/files/2Q%209Q%208Q%20(1).pdf
ถ้าทำแล้วได้คะแนนตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็ถือว่ามีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
หมอแนะนำให้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการโดยละเอียดเพิ่มเติมดูครับ จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม เช่น ในกรณีที่เป็นการปรับตัวที่ผิดปกติก็จะได้รับการฝึกเทคนิคต่างๆเพื่อให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้น ในกรณีที่เป็นโรคซึมเศร้าก็อาจต้องรับประทานยาเพื่อรักษา เป็นต้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การเปลี่ยนแปลงของแต่ละช่วงชีวิต อาจทำให้เราต้องปรับตัวกับเหตุการณ์นั้น บางคนสามารถปรับตัวได้ง่ายก็จะผ่านพ้นวิกฤตหรือความทุกข์ใจไปได้ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข แต่หากไม่สามารถปรับตัวกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนั้นได้ จมอยู่กับความทุกข์ รู้สึกผิด นานๆ จะยิ่งทำให้มีความคิดและความรู้สึกทางลบจนอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า หรือมีปัญหาด้านสุขภาพจิตได้ค่ะ
ในกรณีที่มีอาการมานานเป็นปี ควรเข้าพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการ วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด และรับการรักษาตามแนวทางจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขอีกครั้งนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมอายุ19 คือขอเล่าก่อนนะครับ ตอนอายุ18 ผมอยู่อีกมหาลัยหนึ่ง ไกลบ้าน วันแรกก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอวันที่สอง ผมเริ่มมีอาการคิดถึงบ้าน เริ่มเบื่อ เหงา ไม่อยากออกไปเจอใคร อยู่แต่ในห้อง รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ปิดกั้นทุกอย่างไม่อยากคบใครเป็นเพื่อน(ความรู้สึกแบบยังไงเพื่อนที่มหาลัยมันก็ไม่มีทางจะดีกว่าเพื่อนตอนมัธยม) กลัวว่าเมื่อเปิดใจแล้ว เขาไม่เป็นอย่างที่เราคิด มันจะทำให้เราเสียความรู้สึก(เกลียดความผิดหวัง เกลียดการโดนปฎิเสธ) ผมเริ่มมีอารมณ์หงุดหงิด ก้าวร้าว ทะเลาะกับพ่อแม่ จนผมไม่ไหวก็เลยออกจากมหาลัยนั้น อยู่บ้านมา1ปี อาการพวกนี้ก็เบาลงมาก จนได้มหาลัยอีกที่ที่ใกล้บ้านกว่าเดิม(สามารถกลับเสาร์อาทิตย์ได้) อาการพวกนี้มันก็กลับมาอีกแล้วครับ เบื่อทุกอย่าง รู้สึกเหงา ผมควรแก้ไขอย่างไรดีครับ เมื่อก่อนตอนมัธยมผมเป็นเฮฮามาก ถึงขั้นบ้าเลยก็ได้ ชอบเข้าสังคม เป็นคนตลก สนุก แต่มาตอนนี้ผมกลับชอบที่ที่มันเงียบ สงบ ไม่ชอบอะไรที่มันวุ่นวาย ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ผมกลับชอบที่นั่งคิดถึงชีวิตในอดีตตอนมัธยมที่เราเคยมีความสุขมากกว่านี้ ปล. ผมเคยมานั่งคิดว่าทำไมเราถึงมีอาการแบบนี้ ผมคิดว่า การออกมาใช้ชีวิตคนเดียว ทั้งๆที่18ปีที่ผ่านมา เราอยู่บ้านตลอด คอยมีคนช่วยเหลือเรา พอเราออกมาใช้ชีวิตคนเดียวคอยช่วยเหลือตัวเองมันทำให้เราเครียดหรือเปล่า เจอปัญหานิดหน่อยก็ท้อแล้ว ชอบโทษตัวเองว่า อ่อนแอ ลูกแหง่ ทำอะไรเองไม่เป็น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)