เรียนถามคุณหมอที่เคารพค่ะ ดิฉันมีเรื่องรบกวนสอบถามอาการคุณหมอ 2 เรื่อง ดังนี้ 1.ดิฉันมีอาการปวดหัวไมเกรน มากกว่า 2 ครั้งแต่สัปดาห์ จะรู้สึกเมื่อยล้าบริเวณบ่าและไหล่ ลามขึ้นมายังต้นคอ ท้ายที่สุดจะปวดที่กระบอกตา ขมับและขึ่นไปที่หัวค่ะ เป็นแบบนี้หลายครั้งอาจเกิดจากการกดโทรศัพท์หรือทำงานคอม เครียดเป็นเวลานานๆ ดิฉันจึงเลือกที่จะไม่กินยาบ่อยๆ แทบไม่กินเพราะรู้สึกว่า ใน1 สัปดาห์เป็นบ่อยมาด ถ้ากินยาทุกครั่งกลัวจะเป็นอันตรายเลยใช่ยาหม่องนวดๆคาะ ....คำถามคือ มันมีสิทธิ์เป็นเนื้องอกมั้ยคะ หรือ ความดันสูง หรือต้องไปพบแพทย์แล้ว หรือสามารถกินยาต่อไปได้เรื่อยๆคะ 2. พี่สาวของดิฉันมีอาการแสบบริเวณข้างเต้านม และแสบลามไปยังหน้าอก เมื่อไปตรวจก็ไม่พบสาเหตุอะไร ตอนนี้อาการลามมาเป็นปวดกล้าว้นื้อบริเวณเต้านม ลามมาที่หน้าอก ไหล่ และไปที่หลังค่ะ ซึ่งไปรพ คุณหมอก็ยังไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่า เป็นอะไร พี่สาวก็ไม่สบายใจค่ะ เพราะอาการเหล่านี้เป็นติดต่อกันหลายเดือนแล้ว นี่อาจจะเป๋นอะไรได้บ้าง และมันน่าจะเกิดจากอะไร เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือไม่ และควรจะทำอย่างไรต่อคะ ขอบคุณสำหรับความใส่ใจในการรับทราบและตอบปัญหาค่ะ 🙏🏼

สวัสดีครับ
1. เรื่องอาการปวดศีรษะ
สาเหตุของอาการปวดศีรษะนั้นมีได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- อาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อบีบเกร็ง อาการปวดมักมีลักษณะปวดบีบที่ศีรษะ 2 ข้าง อาการปวดมักสัมพันธ์กับความเครียดหรือการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
- ไมเกรน อาการปวดศีรษะมักปวดแค่ข้างเดียว แต่อาจปวดสลับข้างได้ในแต่ละครั้ง จะปวดในลักษณะปวดตุ้บๆอย่างรุนแรง มักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย อาการมักเป็นมากขึ้นถ้าเห็นแสงสว่างจ้าๆหรือได้ยินเสียงดังๆ
- อาการปวดศีรษะแบบเป็นชุด (Cluster headache) อาการปวดศีรษะมักเป็นแบบปวดรุนแรงเฉียบพลันขึ้นมาแล้วหายไปเป็นพักๆ ร่วมกับมีอาการตาแดง น้ำตาไหล น้ำมูกไหล

และในกรณีที่มีอาการปวดศีรษะเรื้อรังมานานก็มีความจำเป็นต้องตรวจประเมินอาการทางระบบประสาทโดยละเอียดด้วยเพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่าอาการปวดศีรษะไม่ได้เกิดจากความผิดปกติในสมองครับ

ดังนั้นหมอแนะนำว่าคุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการโดยละเอียดก่อนจะดีที่สุดครับ

2.อาการปวดแสบเต่านมและหน้าอกของพี่สาว
อาการปวดแสบที่บริเวณเต้านมและหย้าอกนั้นก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่นกันครับ เช่น
- มีการอักเสบของเต้านมและผิวหนังบริเวณดังกล่าว
- มีการอักเสบของเส้นประสาท
- กรดไหลย้อน
- การมีก้อนเนื้อบางอย่าง
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จำต้องอาศัยการตรวจร่างกายโดยละเอียดเพื่อประเมินอาการเช่นกันครับ

ในกรณีที่ได้รับการตรวจในเบื้องต้นแล้วยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดหมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอก่อน เนื่องจากเมื่อติดตามอาการไปเรื่อยๆก็อาจช่วยให้แพทย์หาสาเหตุที่ชัดเจนได้มากขึ้นได้ครับ

สวัสดีค่ะ
1.ถ้าไม่อยากทานยาบ่อยๆ แนะนำยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอบ่าไหล่เวลาต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์นานๆค่ะ ส่วนยาที่รับประทานได้ถ้าไม่มีประวัติแพ้ยา หรือโรคไต แนะนำเป็นยากลุ่มคลายกล้ามเนื้อ norgesic และลดปวดอักเสบ เช่น naproxen diclofenac ค่ะ สามารถเป็นเรื่องเนื้องอกได้หรือไม่นั้นบอกยากค่ะ แต่ให้คอยสังเกตอาการธงแดงของเรื่องปวดศีรษะคือ ปวดมากที่สุดในชีวิต มีอาเจียนพุ่งร่วมด้วย มีแขนขาอ่อนแรงหรือชาร่วมด้วย ปวดมากเวลาเปลี่ยนท่าทาง มีปวดมากตอนกลางคืนจนสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก และเรื่องความดันโลหิตสูงจะรู้ได้มีทางเดียวคือต้องวัดความดันค่ะ จะวัดที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลใกล้บ้านก็ได้ค่ะ

2.อาการของพี่สาวเหมือนจะเด่นที่เรื่องแสบบริเวณเต้านมร่วมกับปวด จากประวัตินึกถึงเรื่องปวดปลายประสาท neuropathic pain ค่ะ แต่ต้องมั่นใจว่าคลำไม่ได้ก้อนผิดปกติที่เต้านมนะคะ เรื่อง neuropathic pain สามารถเป็นตามหลังการหายของงูสวัสได้ค่ หรืออาจเป็นได้อีกเรื่องถ้าพี่สาวเจ้าสู่วัยทองค่ะ แต่อาการวัยทองต้องดูที่อายุเป็นหลักและควรมีอาการอื่นๆร่วมด้วยเช่นหงุดหงิดง่าย ช่องคลอดแห้งค่ะ แนะรับรับประทานยาบำรุงปลายประสาท เช่น neurobion ค่ะ

โดยสรุปทั้ง 2 ปัญหาถ้าอาการไม่ดีขึ้นแนะนำพบแพทย์ค่ะเพื่อประเมินอาการค่ะ

สำหรับข้อ1อาการที่บอกมาอาจจะเป็นอาการของoffice syndromeได้ เกิดจากการทำงานที่อาจจะมีการนั่งผิดท่าทาง การเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานานมีการใช้สายตาอาจจะทำให้ตาล้า ปวดกระบอกตาได้เช่นกันค่ะ
อาการปวดศีรษะเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่หลักๆที่น่ากังวลคือความผิดปกติในสมองค่ะ โดยมากหากมีอาการปวดศีรษะรุนแรง ปวดมากจนต้องสะดุ้งตื่นมากลางคืน มีอาการอาเจียนพุ่ง คอแข็ง มีไข้สูง มีประวัติอุบัติเหตุทางศีรษะรุนแรงร่วมกับมีอาการสลบ จำเหตุการณ์ไม่ได้ มีอาการชักเกร็งกระตุก เห็นภาพมืด แขนขาอ่อนแรงยกไม่ขึ้น หน้าเบี้ยวปากเบี้ยว มีภาวะเลือดออกง่าย เช่นรับประทานยาละลายลิ่มเลือด วาร์ฟาริน อาการข้างต้นเป็นอาการปวดศีรษะรุนแรงที่นึกถึงความผิดปกติในสมอง ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อดูภาวะเฝ้าระวังความรุนแรง แต่หากไม่มีอาการข้างต้น อาจเป็นได้ตั้งแต่การปวดศีรษะที่ระบุสาเหตุชัดเจนไม่ได้ เช่น ไมเกรน การปวดศีรษะtension หรือการปวดบริเวณรอบศีรษะ เช่น การปวดฟัน ปวดไซนัส/ปวดจมูก อาการสายตาเปลี่ยนแปลง/ปวดกระบอกตา ปวดหู/มีอาการผิดปกติเช่น น้ำไหลจากหู ไปจนถึงอาการปวดศีรษะจากความวิตกกังวล โรคประจำตัวเช่น ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ซึ่งควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องค่ะ
2)เรื่องภาวะการปวดเต้านม อาจจะนึกถึงภาวะกล้ามเนื้ออักเสบหากมีอาการเวลาขยับเคลื่อนไหว แต่หากสงสัยมะเร็งเต้านม มรประวัติใช้ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานนานกว่า4ปี มีคนในครอบครัวสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม มีประวัติฉายแสงเพื่อการรักษา เต้านมผิดรูป น้ำไหลผิดปกติจากหัวนม อาจจะสงสัยภาวะมะเร็งเต้านมได้ หรือหากอายุมากกว่า35ปีแนะนำทำแมมโมแกรมตรวจเต้านมเพื่อความปลอดภัยค่ะ