October 02, 2018 19:26
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โรคซึมเศร้านั้นเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมองร่วมกับปัจจัยแวดล้อมภายนอกอีกเล็กน้อยครับ
การรักษาโรคซึมเศร้านั้นจึงต้องอาศัยการรักษาด้วยยาเพื่อปรับการทำงานของสารเคมีในสมองใหม่ ร่วมกับการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมครับ
ในเบื้องต้นนั้นถ้าหากคนที่คุณสงสัยว่าจะเป็นโรคซึมเศร้านั้นยังไม่เคยไปพบจิตแพทย์มาก่อน หมอก็แนะนำให้พาไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการให้แน่ชัดก่อนครับ เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม หรือในกรณีที่ได้รับการรักษาจากจิตแพทย์แล้วก็ควรช่วยเหลือให้ผู้ป่วยได้รับประทานยาและไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอครับ
ส่วนในด้านของสภาพแวดล้อมต่างๆนั้นควรช่วยให้ผู้ป่วยได้มีกิจกรรมทำ ได้ทำงานตามปกติที่เหมาะสมกับตัวผู้ป่วย และไม่กดดันผู้ป่วยมากจนเกินไป ไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียวหรืออยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเพราะจะทำให้อารมณ์เศร้าของผู้ป่วยเป็นมากขึ้นได้ รวมถึงควรสนับสนุนให้ผู้ป่วยได้ออกกำลังกาย รับประทานอาหาร และพักผ่อนให้เพียงพอครับ
นอกจากนี้ในบางครั้งผู้ป่วยอาจมีความอัดอั้นตันใจบางอย่างที่อยากระบายออกมา คุณก็สามารถรับฟังผู้ป่วยด้วยความเข้าใจได้ครับ และพยายามไม่ตัดสินความคิดของผู้ป่วยว่า “ทำไมไม่ทำอย่างนี้ล่ะ” “เรื่องแค่นี้เองไม่เห็นเป็นอะไรเลย” เพราะจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าคุณไม่เข้าใจเขาครับ รวมถึงอาจสามารถให้กำลังใจผู้ป่วยได้โดยการทำให้ผู้ป่วยรู้สึกได้ว่าตัวคุณพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอครับ
โรคซึมเศร้านั้นใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนาน และอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนรอบข้างได้เช่นกัน แต่ถ้าหากคนรอบข้างเข้าใจผู้ป่วยและเข้มแข็งพอ ก็จะสามารถช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีมากขึ้นได้ครับ
หมอเป็นกำลังใจให้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ขอเพิ่มเติมจากคุณหมอ และเน้นย้ำในบางประเด็นนะครับ โดยอยากขอเน้นย้ำในเรื่องของการเป็นกำลังใจและความสำคัญของการรับฟังครับ เนื่องจาก social support เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่ออารมณ์ของผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ การรับฟังในความคิดและอารมณ์ที่ผู้ป่วยต้องการสื่อสารออกมา หรือแม้กระทั่งการอยู่เป็นเพื่อนถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆก็ตาม ก็สามารถเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้ป่วยได้ครับ
หากเป็นบุคคลในครอบครัวการช่วยผู้ป่วยในเรื่องการรับประทานยาก็เป็นสิ่งสำคัญครับ นอกจากนั้นการช่วยกันสังเกตและให้กำลังใจโดยการพูดชมเชยเมื่อผู้ป่วยสามารถบรรลุเป้าหมายเรื่องทำอะไรสำเร็จได้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนใกล้ตัวสามารถทำได้ครับ การเปลี่ยนคำพูดที่พูดกับผู้ป่วยให้เป็นในเชิงบอก หากิจกรรมที่น่าสนใจและน่าจะตรงใจกับผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถออกไปทำกิจกรรมต่างๆได้ด้วยความมั่นใจมากขึ้นก็เป็นสิ่งสำคัญครับ
ด้านการบำบัดรักษากับผู้เชี่ยวชาญ การพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดูแลสภาพจิตใจของตนเองได้ดีขึ้นและช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามที่ต้องการได้ครับ
สิ่งที่อยากฝากไว้สุดท้ายคืออยากให้คุณดูแลสภาพจิตใจของตัวเองด้วยครับเพราะในบางครั้งผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าก็สามารถทำให้คนรอบตัวเสียกำลังใจได้เช่นกันครับ ดังนั้นการที่คุณสามารถรักษาอารมณ์และความคิดของตนเองไว้ในทางบวกได้ ก็สามารถเป็น role model ให้กับผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นกันครับ ขอเป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอถามเพิ่มเติมนะคะ เราจะทำยังไงได้บ้างคะให้ผู้ป่วยรู้ว่าเราอยู่ข้างๆเค้าถ้าใช้คำพูดต้องพูดกับเค้ายังไงคะ มีบางครั้งที่ผู้ป่วยคิดว่าตัวเค้าเองอยู่คนเดียวบนโลกเราก็พยายามจะดึงเค้ากลับมาเเต่ตัวผู้ป่วยคิดเเบบนี้บ่อยมากเลยค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การที่ผู้ป่วยคิดแบบนี้ มันเป็นอาการของตัวโรค ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการที่สารเคมีในสมองหลั่งไม่สมดุล ส่งผลให้กระบวนการคิด อารมณ์ และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป วิธีการรักษาโรคซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการใช้ยาเพื่อช่วยปรับสารเคมีในสมองให้สมดุล ร่วมกับการทำจิตบำบัด เพื่อปรับความคิดและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ป่วยค่ะ
ในกรณีที่เราเป็นคนใกล้ชิด เราก็พยายามโน้มน้าวให้ผู้ป่วยให้ทานยาอย่างสม่ำเสมอ ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง พยายามชักชวนให้เขาได้ร่วมกิจกรรม เช่น การออกกำลังกาย การทำงานอดิเรก คอยให้กำลังใจ พยายามใช้เหตุและผลให้เขาเห็นว่าโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ ให้เขามองโลกในแง่บวก ให้เขาได้มองคนอื่นๆที่แย่กว่าเขา ให้เขาได้คิดว่าสิ่งที่ดีในตัวเขานั้นมีอะไรบ้าง พยยามให้เขาตระหนักว่าตัวเขานั้นยังมีคุณค่าเสมอ ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การที่จะทำให้ผู้ป่วยรับรู้ว่ายังคงมีคนที่อยู่เคียงข้างคอยให้กำลังใจเขาอยู่นั้นสามารถทำได้โดยการรับฟังผู้ป่วยอย่างเข้าใจครับ เมื่อเขารับรู้ว่าคุณเข้าใจเขา เขาก็จะเข้าใจว่ายังมีคุณที่คอยอยู่เคียงข้างเขาครับ
นอกจากนี้ก็อาจใช้คำพูดในทำนอง “ฉันจะอยู่กับเธอจนกว่าจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้” “เราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน” หากพูดในเวลาที่เหมาะสมก็จะเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยรับรู้ว่าเขาไม่ได้ต่อสู้กับโรคอยู่เพียงลำพังครับ
อย่างไรก็ตามการช่วยให้ผู้ป่วยรับประทานยาอย่างต่อเนื่องก็มีส่วนสำคัญมากในการรักษาครับ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการของโรคซึมเศร้ามากๆ ในช่วงแรกที่รับประทานยาซึ่งยายังไม่ออกฤทธิ์เต็มที่นั้น ผู้ป่วยอาจจะยังมองโลกในแง่ลบมากจนไม่ว่าคนอื่นจะพูดอะไรเขาก็จะไม่มองเป็นด้านบวกครับ ถ้าหากผู้ป่วยยังอยู่ในช่วงนี้ก็ควรสนับสนุนให้ผู้ป่วยได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คนรอบข้างของผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า(ในวัยรุ่น)สามารถช่วยให้ผู้ป่วยหายได้ยังไงบ้างคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)