มีติ่งเนื้อขนาด 0.1-0.3 cm บริเวณปลายหูรูด ทวารหนัก ตั้งแต่ริมประมาณ 1-2 เม็ด ไล่เข้าไปด้านในทวารหนัก 2-4 เม็ด สีชมพู สีเดียวกับทวารหนัก ไม่เจ็บ ไม่แสบ ไม่คัน มีอาการมา1-2เดือน อาการเริ่มชัดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ 18/08/62 มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักล่าสุดเมื่อ7-8เดือนที่แล้ว และสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร ร้ายแรงไหม อันตรายถึงชีวิตไหม มีโอกาสพัฒนาเป็นโรคร้ายไหม รักษาเองได้ไหม ถ้าไม่ได้ รักษาที่โรงพยาบาลด้วยวิธีอะไร ต้องนอนพักฟื้น ต้องผ่าตัดไหม เครียดมากๆ แต่ไม่กล้าไปรพ. ทำใจไม่ได้ที่ต้องไปนอนให้แพทย์แหวกก้นดู เครียดมากๆครับ ขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำด้วยครับ

สวัสดีครับ
การมีติ่งเนื้อที่ทวารหนักนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- ติ่งเนื้อธรรมดา ลักษณะจะเป็นติ่งเนื้อเล็กๆยื่นออกมาจากผิวหนังนอกรูทวารหนัก มักมีสีที่ใกล้เคียงกับผิวหนังโดยรอบ
- ริดสีดวงทวาร สาเหตุเกิดจากหลอดเลือดดำในทวารหนักมีการโป่งพองตัวออกจากการเบ่งถ่ายอุจจาระบ่อยๆ ลักษณะจะเป็นติ่งเนื้อสีม่วงคล้ำสามารถยื่นเข้าออกจากรูทวารหนักได้ และในบางครั้งก็อาจทำให้ถ่ายอุจจาระปนเลือดออกมาได้
- ฝีที่ทวารหนัก จะมีลักษณะเป็นก้อนบวมแดง ทำให้มีอาการเจ็บ และมีหนองอยู่ภายใน
- หูดหงอนไก่ ลักษณะจะเป็นติ่งเนื้อสีชมพูจางๆเล็กๆ รวมกันอยู่เป็นกลุ่ม มักไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บหรือคัน
- เนื้องอกหรือมะเร็งบางชนิด ลักษณะของจะเป็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่มีรูปร่างไม่แน่นอน มักมีการขยายขนาดที่รวดเร็ว ผิวมักแข็งและขรุขระ มีเลือดออกมาจากตัวก้อนได้ง่าย

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

จากภาพลักษณะคล้าย ริดสีดวงทวารครับ ซึ่งเกิดจากการโป่งพองของเส้นเลือดบริเวณทวารหนัก และ หากมีการเสียดสีมาก อาจมีเลือออก ร่วมกับมีอาการติดเชื้อได้ครับ จึงควรไปพบศัลยแพทย์ทวารหนัก เพื่อตรวจทวารและรับการรักษาอย่างเหมาะสมครับ

นอกจากนี้อาจเกิดได้จากการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณรูทวารหนัก ที่ทำให้เกิดฝีหนองได้ครับ

ติ่งเนื้อที่ยื่นออกมาทางทวารหนัก สามารถเป็นได้จากหลายอย่างครับ เช่น ริดสีดวงทวาร ติ่งเนื้อธรรมดา หูด ฝี เนื้องอก เป็นต้นครับ

ถ้ามีเวลาแนะนำไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกโรค จะได้รักษาตามสาเหตุครับ

สวัสดีค่ะ
ติ่งเนื้อที่รูทวารหนักอาจคิดถึงได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น
-ริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoid) มักมีอาการคัน เจ็บ ปวดบริเวณทวารหนัก มีเลือดออกขณะถ่ายอุจจาระ บางคนมีก้อนเนื้อยื่นออกมา สาเหตุมักเกิดจากการมีท้องผูกเรื้อรัง นั่งอุจจาระนาน เบ่งอุจจาระบ่อย อายุมาก น้ำหนักตัวมาก กำลังตั้งครรภ์ สำหรับการรักษาควรไปพบแพทย์ก่อนว่าเป็นริดสีดวงระยะไหน ถ้าเป็นไม่มาก รักษาโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงคือ ไม่เบ่งในขณะถ่าย ดังนั้นต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดท้องผูกเรื้อรัง โดยการกินอาหารที่มีกากใยอาหารสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ไม่กลั้นอุจจาระ ควรอุจจาระให้เป็นเวลา และใช้วิธีแช่ก้นในน้ำอุ่น และใช้ยาต่างๆตามอาการ เช่นแก้ปวดถ้ามีปวดร่วมด้วย ยาเหน็บทวารลดบวม และถ้ารักษาด้วยวิธีดังกล่าวไม่ได้ผลหรือแพทย์พิจารณาแล้วว่าเป็นริดสีดวงขั้นรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาใช้จี้ไฟฟ้า หรือฉีดยาให้ก้อนยุบ หรือผูกก้อน หรือผ่าตัดค่ะ จากภาพไม่ค่อยชัดแต่หมอคิดถึงสาเหตุนี้มากที่สุดค่ะ
-แผลปริขอบทวารหนัก (Anal fissure) จะมีอาการเจ็บบริเวณรูทวารเวลาถ่ายอุจจาระและอาจมีเลือดซึมได้ สาเหตุเกิดจากถ่ายอุจจาระก้อนใหญ่และแข็ง ถ่ายอุจจาระเหลวเรื้อรัง หรือจากมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักได้ ปกติมักหายไปเองได้ แต่ถ้าเกิดแผลปริซ้ำบ่อยๆร่างกายจะพยายามรักษาสมานแผลปรินั้นจนมีเนื้อนูน anal skin tag ได้
-หูดหงอนไก่ (Condyloma Acuminata) เป็นหูดจากเชื้อไวรัส Human papilloma virus (HPV) ที่ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ระยะฟักตัวอาจนานหลายเดือนหรือหลายปีได้ อาการรอยโรคจะมีลักษณะคล้ายหงอนไก่ คือจะเป็นสีชมพูลักษณะขรุขระ อาจมีคันหรือไม่มีก็ได้
-จากสาเหตุอื่นๆ เช่น จากติ่งเนื้อทั่วไป จากเนื้องอก จากฝี เป็นต้นค่ะ
ยังไงแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจยืนยันการวินิจฉัย และจะได้ทำการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ