พอดีว่ามีก้อนเนื้อโผล่ออกมาจากช่องมดลูก มีลักษณะคล้ายหยดน้ำห้อยลงมา ตอนแรกก้อนโผล่มาก้อนเล็ก พานานวันมันเริ่มใหญ่ หลีงจากนั้นเนื้อที่เคยแข็งเริ่มนิ่มลง และในที่สุดมันก็หลุดขาดออกจากช่องคลอด ระหว่างที่ก้อนเนื้อโผล่ออกมาจากช่องคลอดตอนก้อนเนื้อแข็งมักจะมีเหมือกขาวใสออกมาตลอด พอมันเปลี่ยนรูปร่างที่นิ่มและมีสีดำเริ่มมีเลือดปะปนออกมาด้วย อยากทราบว่ามันเป็นอันตรายกับร่างกายไหม

บอกไม่ได้เลยค่ะว่าเป็นก้อนอะไร จากลักษณะที่เล่ามาอาจนึกถึงพวกติ่งเนื้อช่องคลอดหรือมดลูกได้ค่ะ แต่เพื่อความปลอดภัยหมอแนะนำว่าควรไปตรวจภายในที่ รพ ใกล้บ้านเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยว่าต้องมีการทำหัตถการ เช่น ตัดติ่งเนื้อ อัลตราซาวน์เพิ่มเริมหรือไม่ค่ะ แนะนำให้ไปพบแพทย์ใกล้บ้านเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยนะคะ

หมอว่าประจำเดือนมามากเกินกว่าปกตินะคะ แนะนำว่าควรไปรับกาาตรวจเพิ่มเติมค่ะ
เนื่องจากการมีก้อนในมดลูกจะทีพื้นที่ผิวมากขึ้นค่ะ แต่หากประจำเดือนมามากจนมีอากาหน้ามืดใจสั่นแนะนำไปพบแพทย์เร่งด่วนได้ค่ะ
•การรักษาเนื้องอกมดลูก 
การรักษาขึ้นกับ อายุ ความต้องการบุตร สุขภาพทั่วไปของผู้ป่วย ขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก  แบ่งการรักษาเป็น 3 วิธีใหญ่ ๆ 
1. วิธีการรักษาแบบเฝ้าระวัง บรรเทาอาการ 
เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดเนื้องอกไม่โต อายุเข้าใกล้วัยหมดระดู โดยคาดว่าก้อนจะมีขนาดเล็กลง ควรเฝ้าดูอาการและตรวจติดตามอัตราการโตของเนื้องอกอย่างใกล้ชิดทุก 6-12 เดือน (หรือบ่อยขึ้นทุก 3-6 เดือน) โดยการตรวจภายในร่วมกับการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่เมื่อมีข้อบ่งชี้

2.การใช้ยารักษา 
ปัจจุบันยาที่นำมาใช้ในการรักษาเนื้องอกมดลูกและมีรายงานว่าได้ผล คือยาต้ามฮอร์โมนGNRH ซึ่งชักนำให้เกิดภาวะหยุดประจำเดือน จึงทำให้เนื้องอกมีขนาดเล็กลงได้ พบว่าให้ยาไป 3 เดือน ก้อนเนื้องอกมีปริมาตรลดลง 40-60 % ของขนาดเริ่มแรก แต่อย่างไรก็ตามหลังหยุดยาประมาณ 6 เดือน ขนาดมักกลับมาเท่ากับก้อนการรักษา และยามีผลข้างเคียงที่สำคัญ  คือ กระดูกบาง, ร้อนวูบวาบ, อารมณฺเปลี่ยนแปลง, ช่องคลอดแห้ง, ความต้องการทางเพศลดลง(กลุ่มอาการวัยทอง) จึงมักนิยมให้เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนผ่าตัดก้อนเนื้อ เพื่อลดขนาดก้อนเนื้องอกลงทำให้ผ่าตัดง่ายขึ้นและเสียเลือดน้อยลง  หรือใช้ในผู้ป่วยวัยก่อนหมดประจำเดือน ที่คาดว่าก้อนเนื้องอกจะเล็กลงเมื่อถึงวัยหมดระดูจริง 
3.การผ่าตัด 
พิจารณาในรายที่มีอาการผิดปกติ ดังนี้ 
•เลือดระดูออกมากผิดปกติจนเกิดภาวะเลือดจาง 
•มีอาการเนื้องอกกดเบียดอวัยวะข้างเคียง เช่น มีกดเบียดทางเดินปัสสาวะ 
•มีอาการปวดท้องหรือปวดระดูมากอย่างเรื้อรังก้อนโตเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสตรีวัยหลังหมดระดู เพราะมีโอกาสเป็นมะเร็งได้ 
•ไม่แน่ใจการวินิจฉัย เช่น ไม่สามารถแยกจากเนื้องอกรังไข่ได้ 
•มีพยาธิสภาพอื่น ๆ ในช่องเชิงกรานร่วมด้วย ซึ่งจำเป็นต้องผ่าตัด 
•ประวัติมีบุตรยาก หรือแท้งเป็นอาจิณที่ตรวจไม่พบสาเหตุอื่น ๆ
แนะนำว่าควรไปตรวจเพิ่มเติมเพื่อแยกภาวะเนื้องอกมดลูกเพิ่มเติมค่ะ

ไม่เป็นไรค่ะ หมอน่าจะต้องทำการตรวจภายในซ้ำ และอาจจะอัลตราซาวน์เพื่อดูความผิดปกติของมดลูกหรือโพรงมดลูก เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยอยู่แล้วค่ะ

อันนี้บอกไม่ได้เลยค่ะ เพราะไม่ทราบวินิจฉัยว่าเกิดจากอะไร ดังนั้นการรักษาจะต้องสอดคล้องกับการวินิจฉัย ซึ่งตอนนี้อาจจะได้รับการรักษาตามอาการ แต่หมอแนะนำว่าหากรับประทานยาหยุดประจำเดือนแล้วประจำเดือนยังมามากในช่วงที่ได้รับยา3-5งันนี้หมอแนะนำว่าสามารถไปพบแพทย์ที่ทำการรักษาก่อนนัดได้เลยค่ะ