อายุ 20 ไม่มีลูก แต่ฉีดยาคุมแบบ 1 เดือนค่ะ ประจำเดือนมาบ้าง ไม่มาบ้าง บางครั้งหายไป2 เดือน ถึงจะมาเดือนที่3 ช่วงวันที่ 2-8 ธันวาคม มีอาการคัน ตกขาวเป็นก้อนคล้ายนมบูดค่ะแต่กินโยเกิร์ตยาคูล ก็หายค่ะ ไม่ได้ไปหาหมอ พอวันที่22 ธันวาคม มีตกขาวเยอะมาก พอมีเพศสัมพันธ์ก็ติดของแฟนออกมาเลยค่ะ เลยงดมีเพศสัมพันธ์มา4 วัน พอวันนี้ มีตกขาวปนเลือดออกมาตกข่วก็ยังเยอะเหมือนเดิมค่ะแต่ไม่มีกลิ่นนะคะ เลยอยากรู้ว่าเป็นอะไร ควรไปหาหมอมั้ยคะ

1. โดยปกติแล้ว ผู้ที่ใช้ยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 1 เดือน จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกตินะคะ (ต่างจากยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน ที่อาจมีประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนได้)

โดยมักจะมีประจำเดือนมาในสัปดาห์ที่ 4 ของการฉีดยาค่ะ ผู้ใช้จึงมีประจำเดือนมาก่อนที่จะฉีดยาคุมต่อตามนัดเสมอ

หากผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาเลย ก็ควรต้องตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ของวันที่จะต้องฉีดยาคุมเข็มใหม่ด้วยนะคะ และถ้าผลออกมาเป็น 1 ขีด คือไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถฉีดยาคุมตามนัดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้ค่ะ

แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมาในรอบถัดไปอีก ควรแจ้งให้สูตินรีแพทย์ทราบด้วยนะคะ

2. ส่วนอาการตกขาวผิดปกติที่ผู้ถามเป็นอยู่นั้น (แม้จะไม่มีกลิ่นหรือมีกลิ่นที่ไม่รุนแรง แต่ก็คันและมีปริมาณมากผิดปกติ) ไม่ใช่ผลข้างเคียงจากยาคุมนะคะ จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

1. ควรไปพบแพทย์/สูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
2. แนะนำให้ไปรับบริการในโรงพยาบาลตามที่มีการขึ้นทะเบียนไว้นะคะ ค่าใช้จ่ายจะเป็นไปตามสิทธิ์การรักษาค่ะ