August 10, 2019 10:31
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การที่คนเราต้องเจอกับปัญหาในชีวิต ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพอารมณ์และจิตใจเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ แต่คนปกติจะสามารถปรับตัวยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์-1 เดือน
หากเกินระยะเวลา 2 สัปดาหืไปแล้วมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวไม่ได้ มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ต่อเนื่อง แบบนี้มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต และจากอาการ อาจเป็นได้ตั้งแต่โรคเครียด โรคผิดปกติทางบุคลิกภาพและการปรับตัว รวมถึงซึมเศร้าก็เป็นไปได้นะคะ
ในกรณีที่สงสัยเกี่ยวกับอาการของโรคซึมเศร้า สามารถเช็คอาการได้ดังนี้นะคะ
ซึมเศร้าจะมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 7 ข้อ ต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดง่าย
8.ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง
หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ
ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แต่เพื่อนหนูไม่ยอมไปหาหมอค่ะเค้ากลัวแล้วตอนนี้เพื่อนหนูฟุ่งซ่าน แล้วก็แฟนเพื่อนหนูเหมือนต้องกลับมาดูแลค่ะเพราะพ่อแม่ของเพื่อนหนูขอ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่มีอารมณ์เศร้ามากผิดปกติ ร้องไห้มากเกินกว่าที่ควรจะเป็นอยู่บ่อยๆนั้นอาจเป็นอาการที่เสียงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
โรคซึมเศร้านั้นเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติไปจากเดิมร่วมกับร่วมกับการมีประสบการณ์บางอย่างที่เป็นปมในจิตใจอยู่ในอดีตมากระตุ้นให้เกิดอารมณ์เศร้าขึ้นมามากผิดปกติและไม่สามารถควบคุมได้ครับ ซึ่งถ้าหากได้พบแพทย์และได้รับการรักษาด้วยยาเพื่อช่วยปรับการทำงานของสารเคมีในสมอง และอาจมีการทำจิตบำบัดร่วมด้วยก็มักจะให้ผลการรักษาที่ดีตามมาครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรแนะนำให้เพื่อนไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาก่อนจะดีที่สุดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เพื่อนหนูบอกอยู่ขั้น3ค่ะแต่ว่าไม่กล้าไปหาหมอ
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
อาจเป็นอาการของภาวะซึมเศร้าได้ครับ
เบื้องต้นแนะนำให้เพื่อน หาเวลาออกกำลังกาย เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค, ดูภาพยนตร์ตลกหรืออ่านหนังสือการ์ตูนตลก, ระบายผ่อนคลายความเครียดบ้าง เช่น ร้องไห้ ตะโกน เขียนระบายความรู้สึก, พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ จะทำให้ลดความเครียด ความกังวลได้ครับ และสุดท้ายคือ มองโลกในแง่ดี คิดว่าทุกปัญหามีทางแก้ครับ ส่วนโทรปรึกษาเบื้องต้นจะมีสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ได้ครับ
โดยแบบประเมินโรคซึมเศร้ามีดังนี้ครับ
จะมีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการขึ้นไป โดยอาการมีดังนี้
1. อารมณ์ซึมเศร้า (เด็กและวัยรุ่นอาจจะเป็นอารมณ์หงุดหงิดแทนได้ครับ)
2. มีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงมาก
3. นํ้าหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก (โดยเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน) หรือเบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมากขึ้น
4. กระวนกระวาย หรือดูเชื่องช้าลง
5.นอนไม่หลับ/หลับมากไป
6. อ่อนเพลีย ไม่มีแรงแรง
7. มีสมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจ
8.รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า
9. มีความคิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย
จะต้องมีอาการในข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ และมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และควรมีอาการเหล่านี้แทบจะตลอดเวลาครับ
ดีที่สุดน่าจะพาเพื่อนไปพบแพทย์เฉพาะทาง ทางด้านจิตใจ(จิตแพทย์)โดยเฉพาะครับ เพราะจะได้วินิจฉัยแยกโรคอื่นๆที่มีอาการคล้ายกัน เช่น ภาวะเศร้าการปรับตัวไม่ได้จากปัญหาที่มากระทบจิตใจ หรือ ภาวะวิตกกังวลครับ และคุณหมอจิตแพทย์จะชำนาญในการรักษาและให้ยา อีกทั้งจะได้ให้คำแนะนำและติดตามอาการครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
เพื่อนหนูเหมือนอยู่จุดที่ไม่รับรู้สิ่งภายนอกค่ะ เบลอไปหมด ต้องตีที่ตัวถึงจะคุยรู้เรื่องตอนนี้หนูต้องบอกให้เค้ามองหน้าแล่วนับ1-10ค่ะ
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ลองโน้มน้าวให้เพื่อไปพบจิตแพทย์อีกครั้งนะคะ หากมีอาการเบลอ จนไม่รู้สึกตัวแบบนี้ค่อนข้างจะอันตราย อาจมีแนวโน้มที่จะทำร้ายตัวเอง ควรรับการรักษาจากจิตแพทยือย่างใกล้ชิด นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเรื่องเพื่อน เพือนหนูเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเค้าเคยบอก ว่าอยู่ขั้น3 แต่เพื่อนหนูไม่ได้ไปหาหมอ เริ่มเรื่องด้วยเพื่อนหนูก็เหมือนคนปกติทุกคนไม่มีอาการแต่ว่าเค้าชอบคิดมากว่าที่บ้านไม่มีใครสนใจเค้า และเพื่อนๆเมินเค้า แต่ว่าเค้าเป็นคนตามใจคน น่าจะซื่อๆค่ะ เพื่อนคนนี้มีแฟนแล้วคบได้5-6 เดือนแล้วค่ะแต่อีเพื่อนหนูเนี่ยมันนอกใจแฟน แล้วแฟนของเพื่อนจับได้ เค้าบอกเลิกมัน ทีนี้เพื่อนหนูร้องไห้หนักมาก หนูรู้สึกว่าเค้าเบลอ เหมือนเพื่อนหนูหลุดไปในโลกของตัวเอง เค้าบอกว่าถ้าไม่มีแฟนคนนี้เขาอยู่ไม่ได้ บ่นว่าจะฆ่าตัวตาย ล่าสุดเพื่อนคนนี้ไปหาแฟนที่เรียนพิเศษ เพื่อนหนูเฝ้าและรออยู่ที่นั่นและไม่ยอมกลับบ้าน เพื่อนเอาแต่นั่งร้องไห้แต่เพื่อนหนูคนนี้โกหกแฟนเรื่องคนนั้นทุกอย่าง อาการตอนนี้เบลอมากก เพื่อนหนูไม่อยากาเรียนหรือกินข้าว หนูควรจะช่วยเพื่อนยังไง บำบัดได้ไหมคะ อาการของเค้าเหมือนคนขาดความรักไหมเพราะเพื่อนหนูต้องการคนเค้ามาเทคตลอด
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)