ผมควบคุมควมคิดไม่ให้คิดลบไม่ค่อยได้ ผมพยายามคิดบวกแล้ว และ ควบคุมความคิดไม่ให้คิดมากไม่ค่อยได้ เวลาเจอปัญหาหรือทำอะไรผิดผมก็จะเอามาคิดทบทวนซ้ำจนหงุดหงิดวันนี้ผมทะเลาะกับพี่ที่ทำงานครับ เพราะงานที่น่าเบื่อ กับเขาที่มากวนผม ผมรู้ตัวว่าหงุดหงิดนะครับ แล้วผมก็พาลไปด่าเขาแล้วผมก็หนีออกมาครับ ผมคิดแค่ว่าไม่อยากทำแล้ว ระหว่างทางกลับบ้านรู้สึกอยากฆ่าตัวตายด้วยครับ ผมกลัวตายนะครับแต่มันคิดเองจริงๆผมร้องไห้และนึกถึงเรื่องแย่ๆในอดีต ผมรู้สึกโดดเดียวครับ ผมไม่มีพ่อ แม่ (เสียตอนม.3) มีพี่น้องแต่ไม่ค่อยคุยกัน ผมรู้สึกว่ามันเหนื่อยมากครับหลายๆอย่าง ผมอยากจะปรึกษาแพทย์ครับ

สวัสดีครับ
ในกรณีที่มีอารมณ์เศร้ามากๆ หงุดหงิดง่าย คิดลบบ่อยๆจนถึงมีความคิดอยากฆ่าตัวตายเข้ามาเป็นพักๆ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่อารมณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นระดับที่มากกว่าปกติครับ และก็ถือเป็นข้อบ่งชี้ที่จะไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการได้ครับ

สิ่งที่ต้องระวังในกรณีนี้คืออาการที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นอาการของโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งอาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากยิ่งมีอาการตามนี้หลายๆข้อร่วมกับอาการที่เกิดขึ้นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นการบเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างก็จะยิ่งมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นคุณอาจลองประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตัวเอง โดยการทำแบบทดสอบ 9Q ตามลิงค์นี้ได้ครับ
https://www.dmh.go.th/test/download/files/2Q%209Q%208Q%20(1).pdf
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็ถือว่ามีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

หมอแนะนำให้คุณลองไปพบจิตแพทย์ในโรงพยาบาลที่สะดวกเพื่อประเมินอาการและอารมณ์ต่างๆเพิ่มเติมดูครับ เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และให้การช่วยเหลือรวมถึงการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

ถ้าทำได้ 15 คะแนนก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ค่อนข้างมากครับ

สาเหตุที่ทำให้คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามีอารมณ์เศร้าที่มากและนานกว่าคนทั่วไปนั้นเป็นผลมาจากการที่สารเคมีในสมองมีการทำงานที่ผิดปกติเสียสมดุลไปจากเดิมครับ ซึ่งการรักษาก็จะสามารถทำได้โดยการรับประทานยาเพื่อปรับเปลี่ยนการทำงานของสารเคมีในสมองเหล่านี้ให้กลับเข้าสู่สมดุลอีกครั้ง ร่วมกับการจัดการความคิดและอารมณ์ ฝึกทักษะการผ่อนคลาย ฝึกทักษะการรับมือและแก้ไขปัญหา รวมถึงอาจใช้วิธีทำจิตบำบัดควบคู่ไปด้วย ตามดุลยพินิจที่จิตแพทย์เห็นสมควรครับ

โรคซึมเศร้านั้นสามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีการต่างๆข้างต้นครับ หมอแนะนำให้ลองไปพบจิตแพทย์ในโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อประเมินอาการและให้การรักษาที่เหมาะสมดูครับ ถ้าหากยิ่งได้รับการรักษาได้เร็วเท่าไหร่ โอกาสที่โรคจะรักษาได้ผลดีก็ยิ่งมีมากขึ้นครับ

เนื่องจากหลายๆคนนั้นจะยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการพบกับจิตแพทย์มาก่อนจึงอาจมีความกังวลได้เมื่อต้องไปพบจิตแพทย์ครั้งแรก แต่การไปพบจิตแพทย์นั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากและก็ไม่ได้แตกต่างจากการไปพบแพทย์ทางกายเพื่อรักษาอาการไข้หวัด ท้องเสีย หรืออาการอื่นๆครับ และก็ไม่ต้องกังวลว่าจิตแพทย์จะไม่เข้าใจอาการที่คุณเป็นครับ ทางจิตแพทย์นั้นมีความพร้อมที่จะรับฟังปัญหาของคุณและพร้อมจะให้ความช่วยเหลือและรักษาคุณด้วยความเจ็มใจครับ

สวัสดีครับ

อยากเพิ่มเติมจากคุณหมอนะครับ และขอเน้นย้ำว่าการเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยานั้นน่าจะมีส่วนช่วยให้คุณมีวิธีการรับมือกับปัญหาและจัดการกับอารมณ์และความคิดของคุณได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนี้หากความคิดลบของคุณเข้ามาเยอะและควบคุมไม่ได้ผมก็อยากให้แนวคิดในการปล่อยความคิดเหล่านั้นให้เข้ามาในหัวเราได้เลยครับ เพราะจากเหตุการณ์ที่คุณเจอมา ไม่แปลกเลยครับที่จะเกิดความคิดลบเหล่านี้ขึ้น

แต่อย่างไรก็วิธีการหนึ่งที่จะทำให้เราไม่ไหลไปกับความคิดลบๆที่ขึ้นมาเหล่านั้นคือ การมีสติและตระหนักรู้ครับ การสูดหายใจเข้าลึกๆ กำหนดลมหายใจ เดิน หากิจกรรมทำเมื่อมีความคิดด้านลบขึ้นมา พูดคุยระบายความคิดลบเหล่านี้ให้กับคนที่เราไว้ใจจะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยทำให้คุณสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่กับความคิดลบเหล่านี้ได้ครับ พยายามดึงตัวเองกลับมาอยู่ในปัจจุบัน เพราะการตามความคิด คือการอยู่กับเรื่องอดีตหรือวิตกกังวลในอนาคตครับ

คุณอาจจะกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและหนักสำหรับปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่นี้นะครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ครับเมื่อคุณต้องเจอกับสถานการณ์และความเครียดที่ถาโถมเข้ามา อย่างไรก็ตาม อยากให้ตระหนักว่าคุณยังมีแหล่งที่จะสามารถขอความช่วยเหลือได้ ซึ่งก็คือจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาที่จะสามารถให้คำปรึกษาคุณเป็นเพื่อนคู่คิดที่จะช่วยให้คุณสามารถค้นหาคำตอบสำหรับปัญหาที่คุณมีได้ครับ ในเบื้องต้นลองโทรหาสายด่วนสุขภาพจิตได้ครับหากต้องการจะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมมานะครับ สายด่วนเปิดบริการ 24 ชม. แต่อาจจะรอสายบ้างในบางช่วงเวลานะครับ

จากสภาพปัญหา และเหตุการณ์ในอดีต ทำให้ความรู้สึกของคุณเป็นลบ ในกรณีที่คุณมีอาการโดยที่ไม่สามารถปรับตัวกับปัญหา หรือควบคุมอาการเหล่านั้นได้ แนะนำให้พบจิตแพทย์นะคะ เพราะจากอาการที่กล่าวมาอาจเข้าข่ายภาวะซึมเศร้า ซึ่งควรได้รับการตรวจประเมินอาการจากจิตแพทย์ แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ซึ่งการรักษาอาจจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยให้อาการดีขึ้น สามารถปรับตัวใช้ชีวิตได้ตามปกตินะคะ

เบื้องต้นให้เช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนก็ได้นะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
5. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
6. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
7. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
8. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
9. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
10. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ