October 21, 2018 06:41
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ จากอาการดังกล่าวอาจเป็นได้หลายอย่างค่ะ ที่นีกถึงมากที่สุด คือ ท้องผูกค่ะ ทำให้มีอุจจาระกระปริบกระปรอย ปวดท้องเป็นๆหายๆ ได้ค่ะ
วิธีการแก้ไขท้องผูกเบื้องต้น คือ
1. ทานอาหารที่มีกากใยมากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ
2. ยาระบาย เช่น MOM , fiber เช่น senokot ต่างๆ , lactulose ค่ะ อาจต้องใช้เป็นประจำสัก 1-2 สัปดาห์เพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น
3.ช่วงที่อุจจาระแข็งมากๆช่วงแรก อาจใช้วิธีสวนทวารก่อนก็ได้ค่ะ เช่น ใช้ unison enema ค่ะ การสวนทต้องสวนอย่างระมัดระวัง ไม่รุนแรง และค่อยๆสวนออกมานะคะ ช่วงสวนเสร็จ อาจมีอาการปวดท้องเล็กน้อยค่ะ
**หากคนไข้สวน ทานยา ปรับพฤติกรรมแล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ
**หากคนไข้มีโรคประจำตัว /แพ้ยา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้งค่ะ
นอกจากนี้ โรคอื่นๆที่สามารถเป็นได้ ได้แก่
1. การติดเชื้อที่ลำไส้ เช่น แบคทีเรีย เป็นต้น อาจเกิดจากการรับประทานอาหารไม่สะอาด ดื่มน้ำไม่สะอาด ทำให้มีอาการท้องเสียถ่ายเหลวร่วมด้วย
2กรวยไตอักเสบ อาจมีอาหารร่วมเช่น เป็นไข้สูง ปวดหลัง บางคนมีปัสสาวะแสบขัดได้ค่ะ
3.พยาธิต่างๆ อาจมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว บางคนอาจรู้สึกปวด อยากถาายบ่อยๆ ถ่ายไม่สุด ถ่ายแล้วอบากถ่ายอีก เป็นต้น บางคนอาจถ่ายมีพยาธิออกมาให้เห็นได้ค่ะ
4.ยาบางอย่าง หรืออาหารบางอย่าง เช่น ชา กาแฟ เป็นต้น
5.สาเหตุจากกล้ามเนื้อ คนไข้อาจมีประวัติยกของหนัก ออกกำลังกาย โดยใช้กล้ามเนื้อบริเวณท้องมาก การปวด อาจสัมพันธ์กับการขยับตัว สวัสดีค่ะ ถ้าอาการปวดเป็นหลังจากการออกกำลังกาย โดยใช้กล้ามเนื้อบริเวณท้องมาก การเกร็งหน้าท้องเป็นเวลานาน หรือการบิดอยู่ท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานานค่ะ มีจุดกดเจ็บชัดเจน โดยมากหายได้เองค่ะ ถ้าไม่หาย สามารถทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือ ไดโคฟิแนคได้ (โปรดปรึกษาแพืย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยานะคะ)
หากอาการไม่ดีขึ้น ปวดมาก มีไข้ แนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ
6.สำหรับผู้หญิง อาจเป็นความผิดปกติของระบบสืบพันธฺสตรีได้ เช่น เนื้องอกของมดลูก รังไข่ เป็นต้นค่ะ หรือการติดเชื้อในบริเวณดังกล่าว เช่น อุ้งเชิงกรานอักเสบ หรือ ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงที่จะตั้งครภ์ แล้วมีอาการปวดท้องด้านใดด้านหนึ่งมากๆ บวกกับประจำเดือนขาด ผลตรวจครรภ์เป็นบวก อาจเกิดจากการท้องนอกมดลูกได้ค่ะ
**สำหรับอาการดังกล่าว เป็นการวินิจฉัยอย่างพอสังเขป การให้การรักษาต้องได้รับการตรวจร่างกายเพิ่มเติมโดยแพทย์ ดังนั้น แนะนำให้ไปตรวจร่างกายที่ รพ เพื่อการรักษาที่ถูกต้องหากอาการไม่ดีขึ้นค่ะ**
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ปวดท้องน้อยด้านซ้ายล่าง
ปวดตลอด เป็นมา 2 วันแล้วค่ะ เดินแทบไม่ได้เลย ฝืนเดิน ท้องผูกบ้างเล็กน้อย และรู้สึกวิงเวียน จะอาเจียน
ได้แต่นอนพักกับกินยาพารา
ตัวเรารู้นะค่ะ เคยมีประวัติกรวยไตอักเสบ และอ่านในเน็ต อาจจะเกิดจากการยกของหนัก ซึ่งล่าสุดเรา ยกของหนักมาจริงๆ จึงอยากทราบว่า เกิดจากสาเหตุไหน ถ้าไม่ใช่ทั้งสอง เกิดจากภาวะอะไรค่ะ
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สามารถเกิดได้ทั้งสองสาเหตุค่ะ ซึ่งอาจจะต้องแยกหาสาเหตุ โดยการตรวจร่างกายเพิ่มเติม หรือส่งตรวจเพิ่ทเติม เช้น การตรวจเลือด หรือ ตรวจปัสสาวะค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปวดท้องน้อยซ้ายล่างมาสองอาทิตย์ค่ะมีอาการปวดและเหมือนชาต้นขาปัสสาวะน้อยลงและเหลืองถ่ายอุจจาระกะปิดกะปอยอุจจาระเป็นก้อนแข็งเป็นก้อนเล็กๆเดินก็จะรูสึกปวดชัดเจนขึ้นไม่รู้เป็นอะไรไปหาหมอก็ไม่ดีขึ้นเครียดมากเลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)