December 18, 2018 20:18
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หลังได้รับความเสี่ยง 90 วัน ผลตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อ HIV ซิฟิลิส และไวรัสตับอักเสบบีนั้นจะมีความแม่นยำที่สูงมาก ถ้าหากตรวจไม่พบการติดเชื้อในช่วงนี้ก็มักจะไม่มีการติดเชื้อจริงครับ
แต่สำหรับไวรัสตับอักเสบซีนั้นพบว่าในหลายๆคนจะต้องใช้เวลาถึง 6 เดือนจึงจะเริ่มตรวจพบการติดเชื้อได้ ทำให้ในกรณีนี้จึงยังมีความจำเป็นต้องไปตรวจเลือดซ้ำที่ 6 เดือนอยู่ครับ โดยเฉพาะการตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สรุปคือผลตรวจ hiv ซิฟิริส ไวรัสตับอับเสบB สามารถ เชื่อถือได้ว่าผ่าน แต่ไวรัสตับC ต้อง6เดือน ผมเข้าใจถุกต้องใช่ไหมครับ แล้วที่ว่าถ้าเราเป็นไวรัสตับc จะทำให้ผลตรวจhiv ไม่เจอจิงหรือป่าวครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในปัจจุบันการตรวจเลือดหาการติดเชื้อ HIV มีความแม่นยำสูงมากครับ ถ้าหากได้รับการตรวจที่เวลา 3 เดือนหลังได้รับความเสี่ยงแล้วผลตรวจก็จะมีความแม่นยำมากถึง 99.9% โดยที่การติดเชื้ออื่นจะไม่ได้มีผลรบกวนการตรวจครับ
แต่สำหรับเชื้อไวรัสตับอักเสบซีนั้นอาจยังตรวจไม่พบได้ในช่วง 3 เดือนแรก จึงยังแนะนำให้ตรวจซ้ำที่ 6 เดือนอยู่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณครับคุณ หมอ ผมมีความเสี่ยงกับหญิงบริการต้องแต่3/12/60 แล้วครับ แล้วตรวจครับตรวจครั้งล่าสุด9/03/61 ปัจจุบันมีเพศสัมพัน สวมถุงยางทุกครั้ง คู่นอนคนเดียว แต่ ยังมีความกังวล กับอาการต่างๆที่เกิดขึ้น เลยกลัว ครับ และอยากจะบริจาคเลือด แต่กลัวไม่ชัวครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
เมื่อพิจารณาจากวันที่มีความเสี่ยงและผลตรวจเลือดครั้งล่าสุด โอกาสที่จะติดเชื้อต่างๆข้างต้นนั้นมีได้น้อยแล้วครับ เหลือเพียงแต่เชื้อไวรัสตับอักเสบซีเท่านั้นที่ควรได้รับการตรวจยืนยันอีกครั้งที่ 6 เดือน
สำหรับการบริจาคเลือดแนะนำให้รอตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งที่ 6 เดือนก่อน ถ้าหากตรวจแล้วผลปกติก็ค่อยไปบริจาคเลือดหลังจากนั้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อันนี้ผมขอถามเป็นความรู้จะครับ สมมุติเราไปมีsex กับคนมีเชื่อhiv แบบ สอดใส่มีการสวมถุงยางทุกครั้ง แต่มีออรัลsax แบบไม่สวมถุงยาง มีการดูดน่าอก ดูดปาก กัน เราจะมีสิทธิ์ติดเขื้อมากน้อยแค่ไหนครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถุงยางอนามัยนั้นสามารถป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้ประมาณ 90% ครับ และเป็นวิธีการป้องกันการติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆวิธีเดียวในปัจจุบัน ถึงแม้ถุงยางอนามัยจะลดความเสี่ยงในการติดเชื้อลงไปมาก แต่ถ้าให้ดีก็ควรมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไว้ใจได้เท่านั้นเนื่องจากถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% ครับ
แต่การมีเพศสัมพันธ์โดยการเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กซ์ หรือการจูบนั้นถือว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ต่ำจนแทบจะเป็น 0% เนื่องจากในน้ำลายมีเชื้อ HIV อยู่น้อยมากครับ
แต่ถ้าหากได้ไปทำออรัลเซ็กซ์ให้กับคนที่ติดเชื้อ HIV อยู่ก็จะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ 0.04% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผมตรวจhiv ซิฟิลิส ไวรัสตับ B C หลังกินยาpep หมด ที่2เดือนหรือหลังเสี่ยง90วัน ผลที่ออกมาเป็นลบ ผมจะเชื่อถือ ผลนี้ได้มากน้อยแค่ไหนครับ หรือต้อง ตรวจซ้ำที่6เดือน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)