May 02, 2019 22:57
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้มีการใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันแล้ว และสามารถใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องไม่มีการแตกรั่วก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมใดๆเพิ่มเติมครับ เนื่องจากในกรณีนี้จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยมากอยู่แล้วครับ และการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนก็จะไม่สามารถใช้ป้องกันการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ในอดีตได้
แต่ในกรณีที่ต้องการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนเพื่อหวังผลป้องกันการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ในอนาคตก็สามารถรับประทานยาได้โดยมีแนวทางในการเริ่มรับประทานยาอยู่ 2 แนวทาง
1. ถ้าหากเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมก็จะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทัตั้งแต่วันแรก
2. ถ้าหากไม่ได้เริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานยาติดต่อกันอย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ และในช่วงที่รับประทานยา 7 วันแรกก็จะต้องดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับแฟนแล้ว มีการป้องกัน แต่ไม่แน่ใจว่าจะทัองรึไม่ท้อง ควรกินยาคุมกันไว้ก่อนดีมั้ยครับ มีเพศสัมพันธ์หลังแฟนหายเป็นประจำเดือนมา5วัน พอวันที่6 ก็ซื้อยาคุมแบบแผงมาให้กินดีมั้ยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)