August 23, 2019 18:12
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ถ้ารับประทานยาคุมอย่างสม่ำเสมอ
ยาคุมรายเดือนเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงค่ะ
สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ แม้จะอยู่ในช่วงเว้น 7 วันของยาคุมแบบ 21 เม็ดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากผู้ถามไม่ได้ลืมรับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ดแผงเดิมติดต่อกันตั้งแต่ 2 - 3 วันขึ้นไป โดยเฉพาะในสัปดาห์ที่สามของการใช้ ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องไปถึงช่วงที่เว้นว่าง 7 วันก่อนต่อยาคุมแผงใหม่ด้วยนะคะ
จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ โอกาสตั้งครรภ์ก็จะอยู่ในช่วง 0.3 - 9% ตามผลป้องกันปกติของยาคุมรายเดือน
(แต่ถ้าประจำเดือนมาแล้ว ควรรอให้หายดีก่อนจึงค่อยมีเพศสัมพันธ์ เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกราน)
ดังนั้น แม้จะใช้ถุงยางแล้วถุงยางฉีกขาด ก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะถือว่ามีผลป้องกันจากยาคุมรายเดือนอยู่
..
..
..
และถ้าผู้ถามมีประจำเดือนมาในช่วงที่เว้นว่าง 7 วันดังกล่าว ก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์แล้วนะคะ และสามารถต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดได้เลย
เมื่อต่อยาคุมแผงใหม่ตรงตามกำหนด ยาก็จะยับยั้งไข่ที่กำลังจะตกในรอบถัดไปได้ทัน จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันทุกวัน และสามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกตินั่นเองค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ยาคุมกำเนิดถ้ากินสม่ำเสมอสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ใกล้เคียงร้อยเปอร์เซนต์ครับ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ครับ ดังนั้นหากกินยาตลอด แม้เป็นช่วงหยุดยา โอกาสตั้งครรภ์ก็แทบไม่มีครับ ส่วนถ้าอยากป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดส่วนใหญ่ได้ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยด้วยครับ
ผลของการทานยาคุมกำเนิด จะขึ้นกับ เวลาที่เริ่มใช้ และชนิดของยาคุมกำเนิดครับ ถ้าแผงแรกที่เริ่มทาน
-ทานในช่วง5วันแรกของการมีประจำเดือน และยาที่ทานเป็นเม็ดยาฮอร์โมน(ส่วนใหญ่จะมีสี ที่ไม่ใช่สีขาว) จะคุมกำเนิดได้เลยครับ
-ทานในช่วงหลังจาก5วันแรกของการมีประจำเดือน มีผลคุมกำเนิดเมื่อทานเม็ดยาฮอร์โมน ติดต่อกันครบ 7 วันครับ
โดยทั่วไปยาคุมกำเนิด หลักๆจะมี 3แบบครับ
-แบบ 21เม็ด รับประทานครบ แล้วเว้น7วัน
-แบบ 22เม็ด รับประทานครบแล้วเว้น6วัน
-แบบ 28เม็ด รับประทานต่อเนื่องไปเลยครับ
ซึ่งโดยทั่วไป แบบ 21 หรือ 22 เม็ด ประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้นรับประทานยาไปครับ ส่วนแบบ 28 เม็ด ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งครับ
ทั้งนี้ควรทานยาสม่ำเสมอ และตรงเวลา จะได้มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากที่สุดครับ
นอกจากนี้ ยาคุมกำเนิด จะมีผลข้างเคียง ทำให้คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อารมณ์แปรปรวนได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หมายถึงว่ารับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ดอยู่ใช่ไหมครับ
ในช่วงที่รับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ดอยู่ในช่วงที่เว้นการรับประทานยา 7 วันก็จะยังเป็นช่วงที่ปลอดภัยจากการตั้งครรภ์อยู่และถ้าหากมีการรับประทานยาคุมต่อแผงตรงกำหนดก็จะทำให้ยาคุมยังมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ที่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ในกรณีนี้ถึงแม้ถุงยางอนามัยจะฉีกขาดก็ยังถือว่าเป็นการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยอยู่โดยจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่ผ่านมาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
พอดีมีไรกับแฟนแล้วถุงยางแตก แต่ก็กินยาคุมได้หลายเดือนแล้วค่ะ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงเว้น 7 วัน แล้วคือกินยาแผงใหม่ในวันนี้ หนูจะท้องไหม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)