July 15, 2018 08:02
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
น้องผู้หญิงหรือผู้ชายคะ อาการดังกล่าวอาจเข้าข่ายโรคทางจิตเวช ตั้งแต่ เครียด ซึมเศร้า หากมีอาการประสาทหลอนหรือหวาดระแวงด้วยก็จะเป็นอาการทางจิตก็เป็นได้ค่ะ
สาเหตุของโรคทางจิตเวช มีหลายปัจจัย ได้แก่ กรรมพันธ์ การเลี้ยงดู สารเคมีในสมองหลั่งไม่สมดุล จากการใช้ยาหรือสารเสพติดซึ่งส่งผลให้สารเคมีในสมองแปรปรวน
วิธีการรักษา ควรพาน้องไปพบจิตแพทย์ ซึ่งต้องประเมินอาการ วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดเสียก่อน แล้วคุณหมอจะพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมซึ่งมีทั้งการใช้ยาและไม่ใช้ยาค่ะ
ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ยอมไปพบแพทย์ คุณแม่ควรพูดคุยดีๆ คุยตรงไปตรงมา บอกความรู้สึกของเราและคนในครอบครัวว่าเราเป็นห่วงเขาอยากให้เขาได้รับการรักาาด้วยวิธีที่ถูกต้อง อาจจะอ้างเรื่องนอนไม่หลับขึ้นมาแล้วบอกว่าแม่เห็นลูกนอนไม่หลับ เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพอื่นๆตามมา เป็นต้น นอกจากนั้นควรสังเกตพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆของเขาด้วย เช่น มีการใช้สารเสพติดหรือไม่ ก้าวร้าว เก็บตัว หรือ มีความคิดฆ่าตัวตาย อาการเหล่านี้ต้องเฝ้าระวังอย่างมากนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
เนื่องจากอาการดังกล่าวยังเกิดขึ้นไม่นานนักหมอแนะนำให้คุณแม่ลองพูดคุยกับลูกดูก่อนครับว่าช่วงนี้อะไรที่ทำให้เขาเครียดไม่สบายใจหรือไม่
โดยปกติแล้วเมื่อมีความเครียด ความไม่สบายใจเข้ามา คนเราจะพยายามจัดการกับความเครียดเหล่านั้นด้วยวิธีการของตัวเอง แต่ถ้าไม่สามารถรับมือกับความเครียดนั้นได้ ก็อาจทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด อารมณ์เศร้า หรือพฤติกรรมที่ปกติตามมาได้
ถ้าหลังพูดคุยในเบื้องต้นแล้วพบสาเหตุที่ชัดเจนและคุณแม่พอช่วยแก้ไขได้ ก็อาจช่วยให้ลูกอาการดีขึ้นได้ครับ
แต่ถ้าสาเหตุนั้นแก้ไขไม่ได้และยังคงส่งผลต่ออารมณ์หรือการใช้ชีวิตของลูกอย่างต่อเนื่อง การไปพบจิตแพทย์ก็เป็นทางออกที่ดีครับ
แต่ถ้าพูดคุยในเบื้องต้นแล้วไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน ก็อาจต้องระวังว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นอาการของโรคซึมเศร้าครับ
โรคซึมเศร้านั้นเกิดจากการทำงานของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติ ส่งผลให้การควบคุมอารมณ์ของผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้านั้นไม่สามารถทำได้ และเกิดอารมณ์ความรู้สึกต่างๆขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ และอาการดังกล่าวก็มักส่งผลให้มีปัญหาในการกิน การนอน มีปัญหาในการใช้สมาธิ การเรียน/การทำงานตามมาได้ครับ ซึ่งถ้าเป็นอาการของโรคซึมเศร้าก็ควรจะได้รับการรักษาด้วยยาเพื่อปรับการทำงานของสารเคมีในสมอง
การพูดคุยให้ลูกยอมไปพบจิตแพทย์นั้นแนะนำให้คุณแม่ค่อยๆกล่อมลูกด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ในการพูดคุย พยายามแสดงให้ลูกเห็นถึงความห่วงใยที่คุณแม่มีต่อเขา
ประโยคที่ใช้ชวนลูกไปพบแพทย์แนะนำให้ใช้คำขึ้นต้นประโยคว่า “แม่” เช่น “แม่ไม่สบายใจที่เห็นลูกนอนไม่หลับ อยากให้ลองไปพบคุณหมอดูเผื่อจะช่วยได้” “แม่รู้สึกเป็นห่วงที่ลูกดูไม่ค่อยสบายใจในช่วงนี้” การพูดประโยคในลักษณะนี้จะช่วยให้ผู้ฟังอยากทำตามมากกว่าการบอกตรงๆ เช่น “ไปหาหมอกันเถอะจะได้นอนหลับ” ครับ
นอกจากนี้ก็แนะนำให้พูดถึงการไปพบจิตแพทย์ด้วยความเป็นกลาง โดยพยายามอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า การไปพบจิตแพทย์นั้นก็เหมือนกับการไปพบหมอแผนกอื่นๆที่เราไปหาเวลาเป็นหวัด ไม่สบาย เพียงแต่การไปพบจิตแพทย์คุณหมอจะช่วยดูแลปัญหาความไม่สบายใจต่างๆให้เป็นหลักแทนการตรวจโรคตามปกติ
กระบวนการในการพูดคุยต่างๆนั้นจะต้องใช้เวลาพอสมควร เราคงไม่สามารถเปลี่ยนใจใครได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเร่งมากเกินไปก็อาจส่งผลให้เกิดการต่อต้านที่มากขึ้นตามมาได้
หมออยากให้คุณแม่ค่อยๆใจเย็นๆกับเรื่องนี้ ค่อยๆพูดคุยกล่อมลูกไปทีละนิดจนเห็นข้อดีของการไปหาหมอด้วยตนเอง เมื่อถึงจุดนั้นลูกน่าจะยอมไปหาหมอในที่สุดครับ
หมอเป็นกำลังใจให้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ลูกอายุ 19ปี มีอาการนอนไม่หลับกินไม่ลงบนเบื่อตลอดเวลาไม่เข้ารวมกลุ่มคนในบ้าน อารมณ์หงุดงิดตลอดเพิ่งเป็น ประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนหน้า กินปกติ แต่นอนไม่ค่อยหลัง ยังคุยกับ คนในบ้าน อยากพาไปหาหมอเขาไม่ยอมไป ตัวแม่เองไม่รู้จะพูดกับเขายังไงดี จนรู้สึกว่าตัวเองเครียดมาก
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)