July 18, 2019 15:34
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากอาการตามที่เช่ามานี้ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
โรคซึมเศร้านั้นเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสารเคมีในสมอง ทำให้เกิดอารมณ์เศร้าขึ้นมามากผิดปกติโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ การรักษาโรคซึมเศร้านั้นจะต้องรักษาด้วยการรับประทานยาเพื่อช่วยปรับการทำงานของสารเคมีในสมองอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 6-9 เดือน การหยุดรับประทานยาที่เร็วเกินไปนั้นอาจมีผลให้โรคไม่หายขาดหรือกลับมาเป็นซ้ำได้ว่ายครับ และการรับประทานยานอนหลับเพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอที่จะใช้ในการรักษาโรคซึมดศร้าได้ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมยืนยันให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
จากอาการอาจเข้าข่ายโรคซึมเศร้านะคะ การที่เคยมีประวัติรับการรักษาอาการเครียดมาก่อน หากรักษาไม่ต่อเนื่องอาจทำให้อาการกำเริบซ้ำ และตัวโรคอาจพัฒนารุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นซึมเศร้าได้ค่ะ และในบางรายต่อให้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องแต่ตัวโรคก็มีโอกาสที่จะกำเริบซ้ำได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะเมื่อเจอปัญหากรือเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจค่ะ
ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
อาการของโรคซึมเศร้า จะมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 7 ข้อ ต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดง่าย
8.ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง
หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ
ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณสำหรับคำตอบของคุณหมอทั้งสองท่านเลยนะคะ ตอนนี้กำลังมองหาโรงพยาบาลที่มีจิตแพทย์ในระแวกใกล้ๆอยู่ค่ะ จากที่อ่านมาในความคิดเห็นของคุณหมอ แอบกลัวขึ้นมานิดนึงเพราะอาการที่หมอกล่าวมา ตรงกับอาการที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้เลยค่ะ 😥
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ซึมเศร้า รู้เร็ว รักษาไว มีโอกาสหายได้นะคะ ยังไงไม่ควรปล่อยให้อาการเรื้อรัง เพราะจะรักษายาก และอาจต้องใช้เวลาในการรักษานานขึ้นด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ ตอนนี้กำลังสงสัยว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือปล่าว ปัจจุบันอายุ 26 ปี เคยมีประวัติเข้าพบจิตแพทย์ตอนอายุ 15 ปีแต่ตอนนั้นแพทย์ไม่ได้ระบุว่าเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ แต่บอกว่าเป็นโรคเครียดและมีการจ่ายยาให้ค่อนข้างเยอะ ลักษณะจะเป็นแผงสีเงินคล้ายกับยาความดันแต่ไม่ใช่ ซึ่งในตอนนั้นมีอาการปวดหัวบ่อยมาก หงุดหงิดง่าย ไม่อยากทำอะไร รู้สึกเครียดโดยไม่ทราบสาเหตุ จนคุณป้าต้องพาไปหาหมอในตัวอำเภอ และมีการแอดมิทประมาณ1 สัปดาห์หมอได้เขียนใบส่งตัวไปที่โรงพยาบาลใหญ่ๆในตัวจังหวัดและได้ทำการเอกซเรย์สมอง แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ คุณหมอจึงแนะนำให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น และได้พบจิตแพทย์ตามที่กล่าวมาข้างต้น และหลังจากที่เข้าพบแพทย์และกินยาจนหมด อาการปวดหัว เครียดหรือหงุดหงิดง่ายไม่ได้หายขาด แต่นานๆจะมีอาการ เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน จนถึงตอนนี้เหมือนจะกลับไปเป็นแบบเดิม แต่จะหนักกว่าเดิม มีความรู้สึกท้อแท้อยู่ตลอดเวลา ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากพูดคุยกับใครแม้แต่กับที่บ้าน ชอบเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียว รู้สึกอ่อนไหวง่ายกับเรื่องที่กระทบจิตใจ ร้องไห้บ่อย และที่หนักที่สุดคือมีอาการนอนไม่หลับ แต่ละคืนจะหลับยากมาก จนถึงตี 3 ตี4 หรือบางวันก็ไม่หลับเลย เป็นแบบนี้มาสักพักใหญ่ๆแล้วค่ะ อาการแบบนี้สามารถขอยานอนหลับกับโรงพยาบาลได้มั้ยคะ และ อาการแบบนี้คืออาการของคนเป็นโรคซึมเศร้าหรือปล่าวคะ ขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)