April 23, 2018 02:16
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
จากประวัติถ้ามีการสอดใส่กลับเข้าไปอีกก็ยังถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากอาจเช็ดน้ำอสุจิออกไปไม่หมดหรืออาจมีอสุจิเล็ดลอดมาในน้ำหล่อลื่นได้ถึงจะไม่มีการหลั่งอีกก็ตาม ส่วนถ้าทานยาคุมฉุกเฉินป้องกันโดยทานเม็ดแรกไม่เกิน120ชั่วโมงหรือทานให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึงแม้ว่าการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำ ยังไงให้รอดูประจำเดือนก่อนค่ะ ถ้าประจำเดือนขาดแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู สำหรับถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไปให้หาวิธีคุมกำเนิดด้วยค่ะ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรายเดือน และไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉินมากกว่า2กล่องต่อเดือน เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่มีฮอร์โมนสูง ซึ่งอาจมีผลต่อรังไข่ในระยะยาวได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขออนุญาตเสริมนะคะ
วิธีที่ผู้ถามกล่าวมาทั้งหมด ล้วนเป็นวิธีคุมกำเนิดที่ไม่มีประสิทธิภาพสูงทั้งนั้นเลยค่ะ นั่นคือ...
1. การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่ แม้จะไม่มีการหลั่ง หรือเอาออกมาหลั่งข้างนอก ก็มีโอกาสผิดพลาดได้สูงหากควบคุมการหลั่งได้ไม่สมบูรณ์แบบ โดยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4 - 22% ซึ่งโดยปกติจะเป็น 22% เพราะผู้ปฏิบัติอาจคิดไปเองว่าไม่มีการหลั่ง แต่แท้จริงแล้วกลับมีการหลั่งออกมาเล็กน้อยในระหว่างสอดใส่
2. การใช้ยาคุมฉุกเฉิน มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ต่อให้ใช้เร็วแค่ไหน ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15% ค่ะ
3. การนับวันปลอดภัย มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 5 - 24% หากประจำเดือนมาตรงสม่ำเสมอและมีรอบประจำเดือนนานตั้งแต่ 28 วันขึ้นไป ตัวเลขถึงจะต่ำนะคะ ดังนั้น สำหรับคนปกติทั่วไป เมื่อใช้วิธีนี้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ค่อนไปทางสูงคือ 24% ค่ะ
ต้องเข้าใจก่อนว่า การคำนวณจากแอพหรือปฏิทิน ใช้หลักการว่าการมีเพศสัมพันธ์ในระยะที่ไม่ใช่ช่วงไข่ตก จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อย แต่ในความเป็นจริง ไข่อาจตกตามที่คำนวณหรือไม่ก็ได้ค่ะ
หากมีความแปรปรวนของฮอร์โมนจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น วัย (วัยรุ่นจะมีฮอร์โมนแปรปรวนสูง), ความเครียด, การเจ็บป่วย, การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ก็อาจส่งผลให้ไข่ตกเร็วหรือช้ากว่าวันที่คาดไว้ได้
ดังนั้น สำหรับคนที่ประจำเดือนมาไม่ค่อยตรงเวลา, มีรอบประจำเดือนสั้นกว่า 28 วัน หรือมีอายุน้อยกว่า 20 ปี การใช้วิธีนับวันปลอดภัยมีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์สูงค่ะ
..
..
..
สรุปก็คือ ทุกวิธีที่ใช้ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงนะคะ ดังนั้น ต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบหรือเปล่า ถ้ามีประจำเดือนก็ถือว่าไม่ตั้งครรภ์ค่ะ แต่ถ้าประจำเดือนมาช้า แนะนำให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
และหลังจากนี้ไปจนกว่าจะมีประจำเดือนมา ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทุกครั้ง หากใช้ถุงยางอนามัยได้ถูกต้อง และไม่มีการรั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากเพียง 2% ค่ะ
เมื่อประจำเดือนมาแล้ว หากคิดว่าจะมีเพศสัมพันธ์ต่อไปอีกเรื่อย ๆ แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาคุมรายเดือน, แผ่นแปะคุมกำเนิด, ยาฉีดคุมกำเนิด, ยาฝังคุมกำเนิด และห่วงอนามัย หรือจะใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ต่อก็ได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ คุณหมอคะ คือถ้าหากมีเพศสัมพันธ์แล้วฝ่ายชายเขาหลั่งนอก ทีนี้เขาก็เอาผ้ามาเช็ดออกแล้วสอดใส่ใหม่ แต่เขาไม่ได้หลั่งออกมาอีกน่ะค่ะ แบบนี้จะมีโอกาสท้องหรือไม่คะ? แต่ถ้ากินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ? ประจำเดือนเรามาปลายเดือน-คร่อมเดือน แล้วใช้ปฏิทินประจำเดือน เห็นบอกว่ามีโอกาสต่ำที่จะตั้งครรภ์อันนี้เชื่อถือได้หรือไม่คะ? กังวลมากจนนอนไม่หลับเลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)