December 20, 2018 08:55
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในการพิจารณาแนวทางในการรักษาโรคซึมเศร้านั้นจะต้องมีการประเมินอาการในหลายๆด้านก่อนครับ ว่าที่มาที่ไปของโรคคืออะไร การตอบสนองต่อการรักษาที่ผ่านมาเป็นอย่างไร อาการที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ไปจนถึงอารมณ์ ความคิด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งการรักษาโดยการทำจิตบำบัดนั้นก็จะต้องพิจให้เหมาะสมกับแต่ละรายบุคคลไปครับ
แต่ไม่ว่าสุดท้ายแล้วจะเหมาะสมที่จะทำจิตบำบัดหรือไม่ การรับประทานยาเพื่อรักษาโรคซึมเศร้าก็ยังมีความสำคัญอยู่ครับ เนื่องจากสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้านั้นเกิดจากการทำงานของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติไปทำให้เกิดอารมณ์เศร้าที่รุนแรงและควบคุมได้ยาก การรับประทานยาเพื่อช่วยปรับการทำงานของสารเคมีในสมองให้สมดุลจึงมีความจำเป็นครับ
ดังนั้นหมอแนะนำว่าถ้าหากกำลังสงสัยว่าตนเองอาจเป็นโรคซึมเศร้าหรือกำลังเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ก็ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการให้ชัดเจนทั้งในส่วนของการวินิจฉัยโรค ความเป็นมาและการดำเนินของโรคที่ผ่านมาก่อน เพื่อที่จะได้พิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับตัวคุณได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ถ้าเกิดแบบนี้แล้วจะต้องทานยาเบื้องต้นแบบไหนค่ะถ้ายังไม่ไปพบแพทย์แค่ปรึกษาในนี้มียาที่รักษาเบื้องต้นไหมค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ยาที่ใช้สำหรับรักษาโรคซึมเศร้านั้นจะต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้นครับ โดยจะต้องเริ่มจากการประเมินอาการให้ชัดเจนก่อนว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นจากโรคซึมเศร้าจริง และหลังจากนั้นก็จะต้องมีการเลือกชนิดและขนาดของยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายๆไปครับ เนื่องจากยาที่ใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้านั้นมีอยู่หลายชนิดและหลายขนาดมาก ถ้าหากใช้ยาได้ไม่ถูกต้องก็อาจส่งผลทำให้โรคไม่หายหรือมีอาการที่แย่ลงได้ หรือในกรณีที่แย่ที่สุดก็อาจเกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจากยาและทำให้การทำงานของสารเคมีในสมองผิดปกติไปมากกว่าเดิมจนกลายเป็นโรคอื่นได้ครับ
ถ้าหากยังไม่เคยไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการมาก่อนเลยหมอก็แนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการก่อน เพื่อที่จะได้เริ่มให้การรักษาที่เหมาะสมและให้การรักษาที่ต่อเนื่องหลังจากนั้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
หากมีอาการต่อเนื่องนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป และอาการส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ควรไปพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดแล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมตามแนวทางการรักษาโรคนั้นๆ นะคะ
ในกรณีที่มีอารมณ์เศร้า คิดลบ คิดถึงเรื่องตาย บ่อยๆ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
เบื้องต้นเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดีจำเป็นต้องรักษาด้วยยา เพื่อยาจะช่วยปรับให้สารเคมีในสมองหลั่งสมดุล ร่วมกับการทำจิตบำบัดตามสภาพปัญหาของผู้ป่วยแต่ละรายค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ขอเพิ่มเติมจากคุณหมอในเรื่องของการรับประทานยานะครับว่า การรับประทานยาต้านซึมเศร้าจะเป็นการช่วยปรับในเรื่องสารเคมีในสมองเพื่อให้มีอารมณ์เศร้าและอาการต่างๆจากตัวโรคที่ลดน้อยลง ซึ่งการทำจิตบำบัดหรือการรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก็ดีจะเป็นส่วนช่วยในเรื่องของการเยียวยาจิตใจ ปรับความคิดและการจัดการอารมณ์ที่จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้ตนเองมากขึ้น และสามารถค้นหาวิธีการที่คุณจะใช้รับมือกับอาการและความเศร้าทีเ่กิดขึ้นได้
ทั้งนี้การตัดสินใจในการรับบริการแบบไหนบ้างเป็นเรื่องที่คุณอาจจะลองตัดสินใจดูได้ครับ โดยพื้นฐานคือหากอาการที่กล่าวมาค่อนข้างรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ ทำให้การทำงาน การเรียน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างต้องเสียหาย คุณก็ควรที่จะได้รับการบริการทางด้านสุขภาพจิตบ้างครับ ซึ่งการรับประทานยาก็เป็นตัวเลือกที่ดีซึ่งคุณจะต้องทำงานกับแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การรับประทานยาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากคุณคิดว่ายังต้องการการสนับสนุนในด้านอื่นๆเพิ่มเติม การรับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยาก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณสามารถรับบริการได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่ามีนักจิตวิทยาที่ให้บริการในด้านการให้คำปรึกษาที่คุณสามารถเข้าถึงได้หรือไม่ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคุณจะสามารถชำระได้หรือไม่ครับ
หากกล่าวโดยสรุปก็คือ ลองพยายามหาวิธีการที่เหมาะสมสำหรับคุณดูได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการทานยาหรือการรับคำปรึกษาโดยสิ่งเหล่านี้อาจจะต้องใช้เวลาบ้างเล็กน้อยนะครับจึงจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง หากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ภาวะโรคซึมเซาที่คิดว่าตัวเองเป็น คือ มีอาการบางครั้งเมื่อเจอปัญหาจะคิดไม่ตกจะคิดวกไปวนมาว่าทำไมหาเหตูผลและทุกครั้งจะและจะท้อแท้จะหลายครั้งในช่วงหลังที่คิดตัดัญหาด้วยการที่ไม่อยากอยู่ คิดวกไปวนมาว่าความตายจะจบปัญหาทุกอย่าง แต่บางครั้งพยายามเอาทุกอย่างมาหักล้างแต่ก็ีความคิคนี้ างครั้งก่อนนอนิดว่าหลับแล้วไม่อยากตื่นไม่อยากมีวันพรุ้งนี้ ไม่รู้วาเป็นระดับที่ต้องกินยาหรือแค่รับฟังคำแนะนำและบำบัด
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)