สวัสดีครับ ผมอายุ 40 ปี ประวัติพันธุกรรม ไม่มีคนเป็นภูมิแพ้ จะมีก็โรค ความดัน เบาหวาน ตามอายุ แต่ย้อนหลังประมาณ 1 ปี ผมมีอาการดังนี้ 1. ผมมีอาการ ผื่นคันบวมแดง เหมือนลมพิษ ตามผิวหนัง, หน้า, ศีรษะ ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร เพิ่งเป็นมาประมาณ 1 เดือน เป็นๆ หายๆ หลังๆ มานี้เป็นทุกเย็น ที่กลับถึงห้อง 2. ผมมีอาการ แพ้อาหารบางประเภท กินแล้ว จะมีอาการ ปากบวม หน้าบวม เป็นมาได้ประมาณ 1 ปี เป็นๆ หายๆ 3. จากอาการทั้ง 2 ข้อนี้ผมเข้าข่ายเป็นภูมิแพ้หลายระบบใช่ไหมครับ

โรคผื่นลมพิษ มี 2 ชนิดค่ะ คือ แบบที่เรื้อรัง (เป็นมานานกว่า 6 สัปดาห์ ) และแบบ เฉียบพลัน (น้อยกว่า 6 สัปดาห์) สำหรับลมพิษ เฉียบพลัน สาเหตุที่พบบ่อยสุด คือ 1.การติดเชื้อ ได้แก่ เป็นหวัดคัดจมูก ติดเชื้อไวรัส ซึ่ง บางคนจะเป็นบ่อยช่วงหน้าฝนค่ะ 2. การแพ้ยา เช่น ยากลุ่ม nsaid 3.อาหาร ซึ่งอาการจะเกิดทันทีหลังทานอาหารที่แพ้ค่ะ สำหรับชนิดเรื้อรัง มีสาเหตุ คือ 1.การติดเชื้อเช่นกัน เช่น virus EBV 2.autoimmune disease (ภูมิคุ้มกันตนเองมีมากเกินไป) 3.ลมพิษที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ เช่น ลมพิษจากความเย็น จะเกิดเมื่ออยู่ในที่เย็นหรือสัมผัสความเย็น , ลมพิษจากการขูดขีดผิวหนัง เป็นต้นค่ะ 4. จากอาหาร แม้จะพบได้น้อยที่จะมาด้วยอาการเรื้อรัง แต่ก็พอเป็นไปได้ค่ะ หากมีอาการแพ้อาหารจริงๆ ซึ่งทางรักษาคือการหลีกเลี่ยงอ่าหารนั้นๆค่ะ สำหรับการแพ้หลายระบบ หรือ anaphylaxis เป็นอาการแพ้อย่างรุนแรงและเฉียบพลัน และหากไม่ได้รับการรักษาจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ ดังนั้น คิดว่าอาการที่กล่าวมา ซึ่งถ้ามีอาการเฉาพะผื่นลมพิษ ก็จัดว่าเป็นผื่นลมพิษเรื้อรังค่ะ สำหรับอาหาร ปัจจุบัน มีการ ตรวจเลือด และ ทำ skin test แล้ว คนไข้สามารถปรึกษา และตรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุหรือสิ่งที่ทำให้เกิดการแพ้ได้ค่ะ แนะนำพบอายุรแพทย์โรคภูมิแพ้หรือแพทย์ หูคอจมูก โรคภูมิแพ้ หรือคุณหมอด้านผิวหนังค่ะ