June 20, 2019 19:07
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีประจำเดือนมาช้ากว่าปกตินั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการตั้งครรภ์
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ แต่ถ้าหากมีประจำเดือนขาดหายไปหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆข้างต้น ซึ่งก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่งครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
-- สอบถามเพิ่มเติมค่ะคุณหมอ
ล่าสุดตรวจการตั้งครรภ์ตอนเช้ามืดปรากฏว่าไม่พบการตั้งครรภ์ค่ะ หลังจากตรวจครรภ์ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟน ช่วงที่แฟนกำลังนำอวัยวะเพศออกมาด้านนอกเพื่อสวมถุงยางอนามัยแต่แฟนเกิดหลั้งแบบไม่รู้ตัว แต่หลั่งอยู่ด้านนอกนะคะหลังจากนั้นจึงล้างน่ำสบู่ในทันที ละทานยาคุมฉุกเฉินชนิดเม็ดเดียว
--ละพี่เภสัชให้ทานยาปรับฮอโมนเม็ดสีขาวๆเพื่อให้ประจำเดือนมา
**อยากทราบว่า โอกาสตั้งครรภ์มีมากน้อยแค่ไหนและยาปรับฮอโมนทานหลังจากกินยาคุมฉุกเฉินได้หรือไม่คะ ทานยาคุมตอน10:00ของวันนี้ค่ะ22มิ.ย. เภสัชให้เริ่มทานยาปรับฮอโมนพรุ่งนี้ค่ะ ละสมมุติว่าทานยาปรับฮอโมนจนหมดแต่ ประจำเดือนยังไม่มา และต้องการจะตรวจครรภ์ใหม่ ยาปรับฮอร์โมนที่ทานไปจะมีผลต่อการกระทบต่อผลตรวจครรภ์ไหมคะ รบกวนขอคำปรึกษานะคะคุณหมอ กังวลใจมากๆ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
1. การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่ไปโดยไม่มีการป้องกันนั้นถึงแม้จะไม่มีการหลั่งก็ยังมีโอกาสทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ครับ เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ การที่ได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็ถือว่าเหมาะสมครับ
2. ในช่วงนี้หมอแนะนำว่ายังไม่ควรเริ่มรับประทานยาปรับฮอร์โมนเนื่องจากยังไม่สามารถทราบได้อบ่างแน่ชัดว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ครับ
3. หลังจากนี้หมอแนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนและให้รอตรวจการตั้งครรภ์ใหม่อีกครั้งเมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ และถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อนที่จะเริ่มรับประทานยาใดๆครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีค่ะคุณหมอหนูอายุ22ปี สูง165 น้ำหนัก51 ไม่มีโรคประจำตัวอะไรเลย แต่จะมีปัญหาเรื่องประจำเดือนมาไม่ปกติ โดยแต่ละรอบเดือนของหนูที่มาจะห่างกัน30-32วัน แต่พักหลังๆมานี้จะทิ้งช่วงนานขึ้นค่ะ ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดคือ มาวันที่ 4 พ.ค.และหมดในวันที่ 8 พ.ค.ค่ะ แต่ในเดือนมิ.ย.นี้ตามปฏิทินที่จดบึนทึกจะต้องมาประมาณวันที่9-10ที่ผ่านมานี้ค่ะ แต่ ณ วันนี้20 มิ.ย.แล้วประจำเดือนยังไม่มาเลย ไม่มีอาการปวดหน่วงบริเวณท้องหรือคัดหน้าอกแต่อย่างใด จะมีแค่เพียงสิวเห่อขึ้นที่ใบหน้า+ตกขาวและความอยากอาหารมากขึ้นค่ะ ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะสวมถุงยางตลอดค่ะ อาการแบบนี้เกิดจากอะไรและมีเกณตั้งครรภ์ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)