December 08, 2018 00:50
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ปัญหามีการหลั่งช้าในขณะที่มีเพศสัมพันธ์จริง แต่เมื่อช่วยตัวเองแล้วสามารถหลั่งได้นั้นมักมีสาเหตุมาจากปัญหาทางด้านจิตใจเป็นหลักครับ โดยอาจมีสาเหตุมาจากความกังวลในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ การไม่มีอารมณ์ร่วมที่ดีพอ หรือแม้แต่ปัญหาจากประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ดีในอดีต เช่น เคยหลั่งช้ามาก่อนทำให้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อมาก็เกิดความกังวลว่าจะหลั่งช้าอีกและความกังวลดังกล่าวก็ส่งผลให้ไม่สามารถหลั่งได้ตามมา
ส่วนสาเหตุอื่นที่อาจทำให้มีการหลั่งช้ เช่น ปัญหาของเส้นเลือดหรือเส้นประสาทมี่มาเลี้ยงอวัยวะเพศ ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน โรคเบาหวาน มีโอกาสที่จะเป็นสาเหตุได้น้อยครับ เนื่องจากคุณยังสามารถช่วยตัวเองได้อยู่
ในเบื้องต้นนั้นหมอแนะนำให้ลองสำรวจความคิดความกังวลของตัวเองดูว่ามีอะไรที่เป็นปัญหาในขณะที่มีเพศสัมพันธ์หรือไม่ และอาจลองพูดคุยกับคู่นอนดูเพื่อที่จะได้หาทางแก้ปัญหาร่วมกัน รวมถึงอาจใช้วิธีเพิ่มเวลาการเล้าโลมในช่วงก่อนการสอดใส่ให้มากขึ้นเพื่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศที่มากขึ้นครับ
แต่ถ้าหากสุดท้ายแลเวอาการหลั่งช้ายังคงเป็นปัญหาอยู่ก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ผมมีปัญหามีเพศสัมพันธ์แล้วไม่เสร็จครับ คือผมเป็นผู้ชายอายุ 23 ปี สุขภาพดีไม่ป่วยไข้อะไร ช่วยตัวเองค่อนข้างบ่อยครับ วันละ 1-2 ครั้ง ทีนี้ปัญหาคือเมื่อผมมีเพศสัมพันธ์ กล่าวคือสอดใส่และทำการซอยอยู่ตลอดเวลา 30-45 นาทีที่มีอะไรกันนั้นผมไม่เสร็จครับ คือมันรู้สึกเสี่ยวบ้างเหมือนจะเริ่มเข้าสู้กระบวนการเสร็จแล้วมันก็หายไปอะครับ ในขณะที่ฝ่ายหญิงนั้นเสร็จไป 2 ครั้งแล้วก็เลยขอหยุดครับ ผมค่อนข้างเครียดมากเพราะทำทีไรก็ไม่เสร็จเสียที ผมไม่ทราบว่าผมเป็นอาการติดมือที่เขาลือกันในอินเตอร์เน็ต หรือว่าผมเป็นอะไรกันแน่ครับ รบกวนคุณหมอช่วยบอกทางแก้ด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)