สวัสดีค่ะ พอดีมีเรื่องจะปรึกษาถามคุณหมอค่ะ หนูมีเพศสัมพันธ์กับแฟนครั้งแรกวันที่26สิงหาเมื่อกี๊ไม่ใส่ถุงแตกใน2 ครั้ง มีตั้งแต่ประมาณ9-11 โมง จากนั้นหนูก็ซื้อยาคุมฉุกเฉินกินครั้งแรกประมาณบ่าย3:50 ครั้งที่2 ตอนประมาณตี1 กว่า มีเลือดไหลออกจากช่างคลอด อาจจะเป็นเลือดพรหมจรรย์ที่ไหลออก จนวันนี้เป็น3 วันแล้วที่ยังมีเลือดไหล หนูกังวลว่าหนูจะท้องรึป่าวค่ะ ตอนเดือนสิงหาประจำเดือนหนูยังไม่มา พอวันที่29 วันนี้มันมีเลือดไหลออกมาหนูไม่แน่ใจว่าใช่ประจำเดือนรึป่าวค่ะ หนูมีอาการก่อนที่จะมีเลือดออกคือปวดท้องน้อยเหมือนเป็นประจำเดือนทั่วไป หนูกังวลมากว่าจะท้องหรือไม่ค่ะ.

สวัสดีค่ะ กรณีของคนไข้ อาจเกิดจากบาดแผลหรือรอยถลอก / การฉีกขาดของเยื่อพรมจรรย์ ที่เกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์ค่ะ อาจจะท่าทาง ความรุนแรง หรือช่วงที่ทำช่องคลอดแห้ง ก็อาจจะรอบถลอก ทำให้มีอาการแสบ เจ็บ หรือ มีเลือดออกได้ เลือดที่ออกได้บ้าง เล็กน้อย ค่ะ
แผลที่ฉีกขาดบริเวณช่องคลอด ถ้าเป็นไม่มาก สามารถหายได้เองค่ะ ไม่ต้องใช้ยา เนื่องจากบริเวณช่องคลอดเป็นบริเวณที่มีเลือดมาเลี้ยงมาก แผลจึงหายเร็วค่ะ

วิธีปฏิบัติเบื้องต้นเมื่อมีช่องคลอดเป็นแผลหรือฉีกขาดเล็กน้อย
1.รักษาความสะอาด การล้างทำความสะอากช่องคลอด ไม่ควรสวนล้างบ่อยๆ
2. ซักทำความสะอาดเสื้อชั้นในและกางเกงในทุกครั้งหลังใช้ ตากให้แห้งไม่อับชื้น
3. ไม่สวมใส่กางเกงที่คับแน่นมากเกินไป
4.ช่วงนี้ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างนึ่มนวลมากขึ้น
5.ไม่ไปล้วงแคะแกะเกาบ่อยๆ
6.หากมีอาการ เช่น เจ็บมาก ช่องคลอดบวมแดง มีเลือดออกมาก มีตกขาวผิดปกติ มีไข้ ควรไปรพ เพื่อตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติม เนื่องจาก อาจมีแผลใหญ่ข้างในที่เรามองไม่เห็น ที่ต้องเย็บซ่อมโดยแพทย์ หรือมีการ ติดเชื้อ ซ้ำซ้อนค่ะ

อย่่งไรก็ตามเนื่องจาก เลือดของคนไข้ ไหลมาหลายวันแล้ว ถ้าไม่ใช่ประจำเดือนตามรอบปกติ แนะนำให้ไแตรวจดูอาการนะคะ อาจต้องเย็บซ่อมจริงๆค่ะ ถ้ามีแผลขนาดใหญ่ อาจไม่หายเอง

สำหรับเรื่องการทานยาคุมกำเนิด
เบื้องต้น ไม่มีการคุมกำเนิดใดที่ให้ผลร้อยเปอร์เซนต์ค่ะ การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้อวกัน หากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90% แต่ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ค่ะ และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากค่ะ
หรือถ้าต้องการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น จะเปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัยชนิดเคลือบสารทองแดงก็ได้ค่ะ ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมค่ะ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 0-120 ชมได้ดี และมีประสิทธิภาพประมาณ 99%) ค่ะ

ถ้าไม่ได้ป้องกันเลย ก็ยังเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ค่ะ โดยคนไข้ ได้ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ภายใน 24 ชม จะมีความเสี่ยงประมาณ 15%ค่ะ

ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินค่ะ ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติค่ะ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ

อาจเป็นได้สองอย่าง ทั้งผลของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน และการกระทบกระทกอย่างรุนแรงขณะมีเพศสัมพันธ์ค่ะ แนะนำว่า หากทานยา เช่น พาราเซตามอล หรือ พอนสแตน แล้วไม่ดีขึ้น ควรไแพบแพทย์ค่ะ เนื่องจากหากเกิดจากการกระทบกระแทก อาจเป็นอันตรายได้ค่ะ