พอดีโดนแมวข่วนเมื่อวันที่ 29 ตอนนี้ฉีดยาครบ 3 เข็มแล้วค่ะเหลืออีก 1 เข็มจะครบ 4 ครั้ง ตอนวันที่ 2 เคยโดนข่วนจนเลือดซิบล้างออกด้วยน้ำสะอาดและถูสบู่แล้ว เห็นบอกว่าอยู่ในระหว่างฉีดวัคซีนจะไม่เป็นไร เลยอยากสอบถามอีกว่าในชีวิตประจำวันเราเสี่ยงกับการเป็นพิษสุนัขบ้ามากน้อยแค่ไหนคะ เช่น วันนี้เราเอากล่องข้าวไปให้ที่ร้านขายอาหารใส่อาหาร แต่ดันไปเห็นว่าเค้าเอาฝากล่องวางไว้บนผ้าอะไรซักอย่าง เลยแอบกลัวว่าถ้าจะมีน้ำลายหมาแมวอยู่ แล้วหมาแมวจะเป็นพิษสุนัขบ้ารึเปล่า คือค่อนข้างกังวลใจในการใช้ชีวิตประจำวันมากๆเลยค่ะ *แล้วก็ล่าสุดคือข้อเท้าไปโดนกับเหลี่ยมโต๊ะเลยเป็นแผลเล็กๆ แต่ตอนแรกเราไม่เห็นเลยไปใส่รองเท้าที่มีน้ำฝน ไม่แน่ใจว่าตรงข้อเท้าโดนมากน้อยแค่ไหน ผ่านไป20-30 นาทีไปอาบน้ำเห็นเลยเอาสบู่ฟอก แอบกลัวเป็นโรคพิษสุนัขบ้าค่ะ ที่บ้านเลี้ยงแมว แมวตัวนึงฉีดยาแล้วแต่อีกตัวไม่ได้ฉีดเพราะเลี้ยงลูก* ช่วยให้คำแนะนำหน่อยนะคะ ทุกคำถามเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

การใช้ชีวิตประจำวันตามปกตินั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคพิษสุนัขบ้าน้อยมากครับ เนื่องจากเชื้อพิษสุนัขบ้านั้นมีชีวิตรอดอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้ไม่นาน

กรณีที่จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อพิษสุนัขบ้านั้นจะต้องเป็นการสัมผัสกับน้ำลายสัตว์โดยตรงเท่านั้นครับ เช่น ถูกเลียที่แผล ถูกกัด ถูกข่วน

การจะได้รับเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้านั้น หากใช้ชีวิตประจำวันปกติ โอกาสที่จะได้รับเชื้อมานั้นน้อยมากๆครับ ทั้งนี้ขึ้นกับการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในแต่ละพื้นที่ด้วย การโดนน้ำลายหรือการถูกกัด/ข่วน ไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าเสมอไป ถ้าหากว่าสุนัขหรือแมวตัวนั้นไม่มีเชื้อ รวมถึงตัวคุณเองก็ได้มีการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้ว ในร่างกายของเราก็จะมีระดับภูมิคุ้มกันที่สูงพอในการป้องกันเชือ้ไวรัสพิษสุนัขบ้าครับ ( 3 เข็มแรกสามารถกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันขึ้นมาสูงพอ ส่วนเข็มที่ 4 จะทำให้ภูมิคุ้มกันของเรานั้นอยู่ได้นานขึ้น ) ส่วนใหญ่แล้วในคนที่ได้รับเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้ามานั้น มักเกิดจากการถูกกัด/ข่วน หรือสัมผัสกับน้ำลายผ่านบาดแผลโดยตรง และในร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันหรือไม่ไปรับวัคซีน และสุนัข/แมวตัวนั้นมีเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า ที่อยู่ดีๆวิ่งมากัด/ข่วนเอง โดยไม่มีเหตุให้กัด/ข่วน เป็นต้นครับ

และการที่ร้านค้าวางกล่องกับข้าวแล้วกลัวว่าจะมีน้ำลายของสัตว์ลงไปปนนั้น โอกาสที่จะเกิดขึ้นก็น้อยมากๆครับ แทบจะเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง ยกเว้นว่ามีสุนัขหรือแมวมาเลียที่กล่องข้าว ดังนั้นไม่ต้องวิตกกังวลจนเกินไปครับ หรือถ้าไม่แน่ใจ ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารของร้านที่ไม่ถูกสุขอนามัยครับ

โอกาสเป็นไปได้น้อยมากครับ ไม่ต้องกังวลไปนะครับ คุณจะได้รับเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าได้ก็ต่อเมื่อ 1.แมวที่เดินผ่านตัวนั้นมีเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า 2.แมวเดินผ่านเสือ้ผ้าตรงนั้นพอดี 3.น้ำลายแมวเยอะมาก ไหลตลอดทุกครั้งที่เดิน จนเสือ้ผ้าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย (คงไม่มีใครเอาเสื้อผ้าที่เปียกมาใส่อยู่แล้ว) 4.น้ำลายที่ว่านั้นไปสัมผัสกับแผลสดขนาดใหญ่โดยตรง ดังนั้นไม่ต้องวิตกกังวลจนเกินไปนะครับ อย่างที่บอกไปครับว่า การที่เราไปสัมผัสน้ำลายโดยตรง เช่น โดนเลียมาก โดนกัด โดนข่วนมีโอกาสที่จะได้รับเชื้อมากกว่าอยู่แล้วครับ ถ้าเป็นกรณีอื่นๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถ้ายังกังวลอยู่อีก ก็แก้โดยการไม่เอาผ้าไปกองไว้กับพื้นในบริเวณที่แมวชอบเดินผ่านครับ

ถ้าโดนหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 เช่น โดนกัด/ข่วน จะต้องไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นครับ แพทย์จะเป็นคนพิจารณาเองครับว่าต้องฉีด 1 เข็มหรือ 2 เข็ม หรือลักษณะบาดแผลดังกล่าวจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือไม่ (แต่ถ้าอ้างอิงตาม WHO ปีล่าสุด คือถ้าภายใน 3 เดือนหลังจากเข็มสุดท้าย ก็ไม่ต้องฉีดครับ แต่ในประเทศไทยยังไม่ได้มีการบังคับใช้อย่างเป็นทางการ)

อย่างไรก็ตามถ้าหากถูกกัด/ข่วน ถูกเลียแผลโดยตรง มีแผลเลือดออก แนะนำให้ไปพบแพทย์นะครับ เพราะแพทย์จะไม่ได้ดูแลรักษาแค่เรื่องพิษสุนัขบ้าอย่างเดียว แพทย์จะดูแลเรื่องแผล วัควีนบาดทะยัก และการดูแลทำความสะอาดแผลทีถู่กกัด/ข่วน ด้วยครับ

การล้างมือบ่อยเกินไป สบู่จะระคายเคืองผิวหนังทำให้ผิวหนังหลุดลอกได้เป็นเรื่องปกติครับ ถ้าหากลดความถี่ของการล้างมือลงได้ อาการก็จะค่อยๆดีขึ้นเอง