สวัสดีค่ะคุณหมอ เดือนที่แล้วมีเพศสัมพันธ์กับแฟนวันที่18พ.คค่ะ ไม่ได้ใส่ถุงยางแต่สอดใส่แค่นิดเดียวรู้ตัวว่าเจ็บเลยเอาออก จากนั้นกินยาคุมฉุกเฉินครบกำหนดหมดเลยค่ะ แล้วประจำเดือนก็มาวันที่25ค่ะ มา5วันแล้วก็มาเยอะเหมือนปกติเลยค่ะ เดือนนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ เป็นเพราะยาคุมฉุกเฉินมั้ยคะที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ คือเครียดด้วยค่ะถึงแม้ว่าประจำเดือนจะมาแล้ว

ประจำเดือนอาจคลาดเคลื่อนได้จากหลายสาเหตุนะคะ เช่น วัย ความเครียด การเจ็บป่วย หรือการใช้ยาคุมฉุกเฉิน

แต่งานวิจัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน ชี้ว่าในรอบเดือนที่มีการรับประทานยา ผู้ใช้มากกว่า 90% จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบ หรือคลาดเคลื่อนไม่เกิน 4 วันจากวันที่คาดไว้ค่ะ และส่วนใหญ่จะกลับเป็นปกติในเดือนถัดมา มีเพียงประมาณ 1% เท่านั้นที่ยังมีประจำเดือนคลาดเคลื่อนมากกว่า 4 วันค่ะ

ดังนั้น มีโอกาสที่ประจำเดือนในรอบถัดมาจะคลาดเคลื่อนจากยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ แต่พบน้อยมาก และถ้าเป็นผลจากยา น่าจะคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันจากปกตินะคะ

อย่างไรก็ตาม หากนับจากวันที่ประจำเดือนมาครั้งล่าสุด มาจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลย ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลค่ะ เพราะถือว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์นะคะ

โดยปกติถ้ามีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนไม่ควรจะมาครับ
การที่ประจำเดือนมาในวันที่ 25 พ.ค. ซึ่งเป็นวันหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว ก็แปลว่าไม่น่ามีการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้านั้นครับ
ทั้งนี้ต้องมั่นใจด้วยว่าเลือดที่ออกในตอนนั้นเป็นประจำเดือนจริง คือ
- เป็นเลือดที่ออกมาในวันที่ตรงตามรอบประจำเดือนที่ควรจะเป็น
- เลือดออกนาน 3-7 วัน โดยในวันแรกเลือดออกมากกว่าวันหลังๆ
- ใช้ผ้าอนามัยประมาณ 2-3 แผ่นต่อวัน
- สีเลือดเป็นเลือดเก่าๆคล้ำๆ
ถ้าเลือดที่ออกในตอนนั้นมีลักษณะตามนี้ก็น่าจะเป็นประจำเดือนครับ
และถ้าประจำเดือนมาหลังรับประทานยาคุมฉุกฉินไปแล้วครั้งหนึ่ง ตัวยาคุมฉุกเฉินก็จะไม่มีผลอะไรต่อจากนั้นแล้วครับ

ในกรณีที่กังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์มากๆ แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยถ้าหากหลังจากวันที่เล่ามานั้นไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีก ผลการตรวจในตอนนี้ก็เชื่อถือได้ครับไม่ว่าผลจะออกมาว่าตั้งครรภ์หรือไม่

สาเหตุที่ประจำเดือนมาช้านอกเหนือจากการตั้งครรภ์มีได้หลายสาเหตุครับ เช่น
- ไข่ไม่ตกตามรอบ
- ระดับฮอร์โมนผิดปกติ
- ความผิดปกติของรังไข่หรือมดลูก
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
หากตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่มีการตั้งครรภ์ก็สามารถรอประจำเดือนต่อไปได้
แต่ถ้าประจำเดือนขาดไปเป็นเวลานาน โดยเฉพาะถ้านานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

เมื่อมีประจำเดือนมาในรอบก่อน หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ในรอบเดือนนั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้ว และหากนับจากวันที่ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดมาจนถึงวันนี้ ยังไม่มีเพศสัมพันธ์อีกเลย ก็ไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีประจำเดือนมาเลย ติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ทั้งที่ไม่มีการตั้งครรภ์ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ

อาการปวดหลัง เจ็บเต้านมสามารถเป็นอาการที่เกิดขึ้นก่อนที่ประจำเดือนจะมาได้ครับ
แนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนไปก่อน เนื่องจากในบางเดือนประจำเดือนอาจคลาดเคลื่อนได้ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างตามที่หมออธิบายไปครับ

การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นมีโอกาสทำให้ตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่อาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปผสมกับไข่ได้

อาการเจ็บเต้านมที่เป็นอยู่นั้นมีโอกาสเป็นได้ทั้งอาการก่อนที่ประจำเดือนจะมาและอาการจากการตั้งครรภ์ครับ

เพื่อความแน่นอนหมอแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อนครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ถ้าตรวจแล้วขึ้น 1 ขีดหรือไม่มีการตั้งครรภ์ก็มั่นใจได้ 97-99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์จริงครับ

ในกรณีที่ตรวจแล้วไม่มีการตั้งครรภ์ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ครับ เนื่องจากประจำเดือนอาจขาดไปจากสาเหตุอื่น เช่น
- ไข่ไม่ตกตามรอบ
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป