หลังจากมีประจำเดือน 1 อาทิตย์ ได้มีsex และ หลังจากนั้นก็มีเลือดสีน้ำตาลออกมา ปริมาณเต็มผ้าอนามัยแผ่นเล็ก แต่ไม่มรกลิ่น ปัสสาวะไม่มีอาการแสบใดๆแต่มี ปวดท้องน้อยบ้างบางครั้ง อยากทราบว่าเป็นเลือดตกค้างจากประจำเดือนใช่หนือไม่คะ อันตรายหรือเปล่า

อาจเป็นจากเลือดที่ตกค้างได้ครับ หากมีจำนวนไม่มาก แต่หากมีจำนวนมาก หรือมีเลือดไหลไม่หยุด หรือ หากมีอาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะแสบขัด หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือ สีผิดปกติ อาจเกิดได้จากการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ที่อาจเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่นหนองในแท้ หนองในเทียม หรือการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆได้ รวมทั้งการอักเสบหรือมีแผลบริเวณช่องคลอดและปากมดลูกจากการทีเพศสัมพันธ์
ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ ควรไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจภายใน ตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุต่อไปครับ

สวัสดีครับ
หลังมีประจำเดือน 1 สัปดาห์ก็ไม่ควรมีเลือดที่ตกค้างจากประจำเดือนเหลืออยู่แล้วครับ

การมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์นั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการบาดเจ็บของช่องคลอดหรือปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้น ซึ่งเป็นภาวะปกติของผู้หญิงบางคน แต่ส่งผลให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
- มีการอักเสบติดเชื้อของช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก

ถ้าหากเลือดที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก ออกมาติดต่อกันหลายวัน หรือมีอาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์อยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ

สวัสดีครับ ปกติตกขาวสีน้ำตาลคล้ำ มักเกิดจากเลือดเก่าๆที่อยู่ในช่องคลอดครับ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

- การฉีกขาดของช่องคลอดแล้วมีเลือดออกอยู่เดิม (การออกกำลังกายแรงๆ, การมีเพศสัมพันธ์, การแคะแกะเกา)
- อิทธิพลของฮอร์โทนเพศชั่วคราว เช่น จากยาคุมกำเนิด ,ยาสตรีต่างๆ
- คนไข้ที่มีรอบเดือนยาว มากกวาสปกติ ทำให้ผนังมดลูกหนา จึงลอกตัวออกมาครับ
- มีการติดเชื้อ ในช่องคลอด มดลูก
- เนื้องอก
โดยทั้วไป ถ้าเป็นเลือดเก่าๆ ชั่วคราว ประมาณ 5-7 วันควรหายได้เอง แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ แนะนำให้ไปตรวจภายในเพิ่มเติมคครับ