ฉีดยาคุมเมื่อเดือนกรกฎาคมอ้ะค้ะแล่วหมอนัดฉีดวันที้16มิ. ยแต่ม่ได้ไปฉีดค้ะเลยหยุดฉีดไป2เดือนซึ่งตอนนี้ก็ยังม่ฉีดค้ะ. แล่วเมื่อเดือนสิงหาคมรอบเดือบมา2รอบภายใน1เดือนนั้นซึ่งในทุกๆเดือนจะมีเพศสัมพันธ์กับแฟนอ้ะค้ะอยากทราบว่าพอจะมีโอกาสท้องไหมค้ะ

สวัสดีครับ
จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ เนื่องจากมีโอกาสที่ฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดจะไม่ครอบคลุมมาถึงช่วงเวลา 2 เดือนหลังหยุดฉีดยา
- ถ้าหากฉีดยาคุมกำเนิดชนิด 1 เดือนมาก่อน ยาคุมก็จะไม่มีฤทธิ์ครอบคลุมมาถึง 2 เดือนหลังหยุดยาแน่ๆ เพราะการตกไข่มักกลับมาเป็นปกติได้ทันทีตั้งแต่เดือนแรก
- ถ้าฉีดยาคุมชนิด 3 เดือน ก็ยังมีโอกาสที่การตกไข่จะยังไม่ปกติและมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยกว่า เนื่องจากในบางคนหลังหยุดฉีดยาคุมกำเนิดชนิดนี้จะกลับมามีการตกไข่ใน 6-12 เดือนหลังหยุดฉีดยา แต่ก็ไม่มีอะไรที่การันตีว่าจะไม่ตั้งครรภ์ครับเพราะการตกไข่ในบางคนก็กลับมาเป็นปกได้เร็ว

ดังนั้นหลังหยุดฉีดยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจึงควรมีการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยวิธีการอื่นทดแทนเสมอ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรับประทาน เพื่อให้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัย

ในกรณีนี้เพื่อความมั่นใจจึงอาจต้องลองตรวจการตั้งครรภ์ดูครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ครับ

ลักษณะของประจำเดือนที่ปกตินั้นจะต้อง
- มาห่างกันรอบละ 21-35 วัน
- มานาน 3-7 วัน
- ใช้ผ้าอนามัยวันละ 2-3 แผ่น
- สีเป็นเลือดเก่าคล้ำๆ
ดังนั้นในกรณีที่เลือดออกจากช่องคลอดมาถี่เกินไปก็อาจจะไม่ใช่ประจำเดือนครับ จึงอาจยังต้องเฝ้าระวังเรื่องการตั้งครรภ์อยู่

ส่วนการฉีดยาคุมกำเนิดนั้นจะมีประจำเดือนมาตามปกติหรือไม่ขึ้นอยู่กับรูปแบบยาที่ฉีดครับ
- ถ้าฉีดยาคุมชนิด 1 เดือน ประจำเดือนจะมาทุกเดือน
- ถ้าฉีดยาคุมชนิด 3 เดือน ก็อาจทำให้มีอาการขาดประจำเดือนหรือเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือนได้