January 11, 2019 21:21
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
น้ำสีน้ำตาลอาจเป็นเลือดเก่าๆปสมสารคัดหลั่งพวกตกขาวจากช่องคลอด ถ้าไม่ได้ออกเยอะ มีคัน ปวดท้องน้อย ก็ไม่เป็นไรครับ
ส่วนเรื่องโอกาสท้อง
ถ้าก่อนหน้านี้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ มีเพศสัมพันธ์ช่วง ก่อน7วันถึงหลัง7วัน นับจากวันที่ประจำเดือนมาวันเเรก จะเป็นระยะปลอดภัย ไม่มีไข่ตก โอกาสท้องน้อยมาก (ต้องดูว่าที่ประจำเดือนหมด1วันอยู่ในช่วงนี้หรือปล่าวครับ)
เเต่ถ้าเดิมประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ กะเวลาตกไข่ยาก หรือมีเพศสัมพันธ์ช่วงที่ไม่ใช่ระยะปลอดภัย โดยเฉพาะ14วันนับจากประจำเดือนมาวันเเรก จะเป็นช่วงไข่ตก โอกาสท้องจะมากกว่า กรณีนี้เเนะนำยาคุมฉุกเฉินครับ
ยาคุมฉุกเฉินซื้อได้ตามร้านขายยา ถ้ายังไม่เกิน 72 ชม (บางตำราให้120ชม) ก็ถือว่ายังมีประสิทธิภาพครับ.
หลังรับประทานยาจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ไปตรวจการตั้งครรภ์นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีน้ำสีน้ำตาลผิดปกติออกมาจากช่องคลอดนั้นไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ครับ อต่การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่เกิดขึ้นแม้ขะไม่มีการหลั่งก็จะยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดภายในเวลาไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เพื่อที่จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85% ครับ
ส่วนอาการมีน้ำสีน้ำตาลผิดปกติไหลออกมานั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ผลจากระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการติดเชื้อในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก
ซึ่งถ้าหากน้ำผิดปกติดังกล่าวออกมาติดต่อกันหลายวัน ออกมาในปริมาณมาก หรือมีอาการในลักษณะนี้เกิดขึ้นหลังมีเพศสัมพันธ์อยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จิตตรีพร
อริปริยะกุล
(พยาบาลวิชาชีพ)
eye
สาเหตุของการมีเลือดออกช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจจะมีการบาดเจ็บในช่องคลอด จากการมีเพศสัมพันธ์รุนแรง จึงมีเลือดปนออกมาได้ค่ะ ลองใช้สารหล่อลื่นช่วยน่าจะดีขึ้น
หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆเช่น เลือดค้างจากประจำเดือนเก่า มดลูกอักเสบ มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นต้น ลองสังเกตอาการผิดปกติอื่นและลักษณะของเลือดที่ออกมา หากยังคงออกมามากหรือกะปริดกะปรอยอยู่เรื่อยๆ ปวดท้องมาก แนะนำว่าควรไปตรวจภายในเพื่อหาสาเหตุค่ะ
และถ้าหากเป็นคนประจำเดือนมาปกติ สามารถใช้วิธีหน้า7หลัง7ได้ค่ะ โอกาสตั้งครรภ์น้อย แต่หากมาไม่ปกติ อาจจะเสี่ยงตั้งครรภ์ได้เพราะอาจมีอสุจิบางส่วนปนมากับน้ำหล่อลื่นได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แต่คือทานยาคุมปกติ พอดีอะค่ะ เลยไม่ได้ทานยาคุมฉุกเฉิน กังวลมาก กลัวว่าจะท้อง
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ไม่ทราบว่าวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายคือวันที่เท่าไหร่ เริ่มรับประทานยาคุมวันที่เท่าไหร่ และมีเพศสัมพันธ์วันที่เท่าไหร่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ประจำเดือนมาวันที่ 2 มกราคม และ ประจำเดือนครั้งสุดท้ายคือวันที่ 6 มกราคม ค่ะ เริ่มทานยาคุมตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมปีที่แล้วค่ะ เป็นยาคุม 28 เม็ด มีเพศสัมพันธ์วันที่ 7 มกราคมค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในกรณีนี้ถือว่ามีเพศสัมพันได้อย่างปลอดภัยและไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานบาคุมฉุกเฉินครับ เนื่องจากได้รับประทานยาคุมติดต่อกันมานานเกิน 7 วันแล้ว
ในกรณีนี้จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่ผ่านมา ซึ่งเป็นประสิทธิภาพตามปกติของยาคุมกำเนิดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณนะคะ
คือมีอะไรกับแฟนหลังประจำเดือนหมด 1 วัน แบบไม่ใส่ถุง แต่ไม่ได้หลั่ง เพียงแค่สอดใส่เข้าไปไม่นานแล้วก็เอาออก หลังจาก 2-3 วัน มีน้ำสีน้ำตาลออกมาจากช่องคลอด คืออาการอะไรคะ แล้วจะท้องไหม ควรทำยังไงดี ปล.ทานยาคุมปกติอยู่ค่ะ เลยไม่ได้ทานยาคุมฉุกเฉิน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)