June 03, 2018 14:44
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 100 ชั่วโมงแล้วค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80% -85%
เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่
เลือดที่ออกหลังกินยาคุมฉุกเฉิน 1 สัปดาห์ น่าจะเกิดจากการกินยาค่ะ เพราะไม่ตรงกับรอบประจำเดือนปกติของคุณ
อาการเปลี่ยนแปลงทางเต้านม และ ตัวร้อน แบบที่บอก เป็นอาการของทั้งช่วงก่อนประจำเดือนมาก็ได้ ตั้งครรภ์ก็ได้ บอกไม่ได้ค่ะ
หลังมีเพศสัมพันธ์ 14 วันแล้ว หรือ เป็นช่วงที่เมนส์ปกติควรจะมา แต่ไม่มา สามารถใช้ที่ตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์มาตรวจได้แล้วค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
Jun 03, 2018 at 02:33 PM สวัสดีค่ะ คือประจำเดือนมาตอนวันที่ 2พ.ค. แล้วตี1ของวันที่9พ.ค.ก็มีเพศสัมพันธุ์แต่ไปหลั่งในห้องน้ำ เลยซื้อยาคุมฉุกเฉินpostinorมากินตอนตี2ของวันนั้น หลังจากนั้น1อาทิตย์เปะก็มีเลือดออกเหมือนประจำเดือนเลย ตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ ปกติประจำเดือนมาทุกต้นเดือน อยากทราบว่า 1. เลือดหลังกินยา 1 อาทิตย์ มีโอกาสเป็นประจำเดือนไหมคะหรือเป็นจะเป็นผลของยา แล้วก็อยากรู้ว่ามีโอกาสเป็นเลือดล้างหน้าเด็กร่วมด้วยไหมคะ 2ตอนนี้เริ่มมีตุ่มขึ้นรอบๆหัวนม นอนเยอะ หิวกินเยอะ สิวขึ้น ตัวร้อนๆ อาการนี้คือประจำเดือนจะมาหรืออาการตั้งครรภ์คะ 3.สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เลยไหมคะหรือต้องรออีก ช่วยตอบหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)