April 14, 2020 10:29
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
- ถ้ามีการOral sex สามารถติดได้ครับ สายพันธ์ที่เจอ คือเจอบ่อยในตำเเหน่งนั้นๆ เเต่ก็ติดกันได้หมดครับ
- มีลูกได้ปกติครับ ตอนฝากครรภ์คุณหมอจะประเมินอยู่เเล้วครับ เช่น ถ้าตอนจะคลอด ที่อวัยวะเพศเป็นเริม ก็จะพิจารณาผ่าคลอดเป็นต้นครับ
เริม หลักๆจะติดต่อทางการสัมผัสครับ ช่วงที่เป็นโรค
แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการแกะเกา แนะนำให้คนใกล้ตัวหลีกเลี่ยงการสัมผัสผื่นแผล ในขณะที่มีตุ่มพองครับ
และหาเวลาไปพบเเพทย์ครับ ถ้าให้ดี ภายใน48ชั่วโมงครับ เพราะหลังจากนั้นยาต้านไวรัสAcyclovir จะได้ประโยชน์น้อยครับ (ถ้าดูแลร่างกาย นอนพักผ่อนเพียงพอ ในคนที่ภูมิคุ้มกันปกติ จะหายเองได้ครับ)
โรคเริมถ้าติดแล้วจะไม่หายขาด สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ใหม่
บางครั้งอาจเป็นซ้ำได้ถึงปีละ 3 ครั้ง แต่จะค่อย ๆ ลดไปเมื่ออายุสูงขึ้น โดยเริมที่ริมฝีปากจะมีอัตราการเกิดเป็นซ้ำประมาณ 20-40% ส่วนเริมที่อวัยวะเพศจะมีอัตราการเกิดเป็นซ้ำประมาณ 80% ซึ่งการเกิดเป็นซ้ำนี้จะมีอาการน้อยกว่า หายเร็วกว่าการเกิดเป็นครั้งแรกครับ
สำหรับการรักษาการติดเชื้อซ้ำในบริเวณอวัยวะเพศ แพทย์จะให้รับประทานยา (Acyclovir) ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ทุก ๆ 8 ชั่วโมง นาน 5 วันครับแต่สำหรับผู้ที่เป็นเริมที่อวัยวะเพศซ้ำอยู่บ่อยๆ (มากกว่าปีละ 6 ครั้ง) แพทย์จะให้รับประทานยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ทุกวันติดต่อกันอย่างน้อย 1 ปี ถ้าเป็นบ่อยๆเกิน 6 ครั้งต่อปีแนะนำให้ไปพบแพทย์เเผนกอายุรกรรมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอนที่เป็นเริมก็ไม่ได้จูบ หรือ oral sex เลยนะคะคุณหมอ 1 wksที่เป็นแผลแห้งดีประมาณวันที่5 ครบ 7วันคือปกติเลยค่ะ แต่ก็ยังรออีก 1 wks รวมทั้ง2 wks ที่ไม่ได้จูบ หรือoral sex เลยสงสัยว่าทำไมสามีถึงติดได้ หรือเชื้อยังคงเหลืออยู่ แค่ไม่แสดงอาการ? ค่ะ
มีอีกข้อค่ะ ที่สงสัย สำหรับคำถามที่1 คือถ้า สามีติดเชื้อเริมประเภทที่1 ที่อวัยวะเพศ ถ้ามีsex กัน เราก็สามารถเป็น ประเภทที่1 ที่อวัยวะเพศได้ด้วยใช่ไหมค่ะ (ถึงแม้ว่าเราจะมีเชื้อเริมประเภทที่1ที่ปากแล้วก็ตาม) ก็สามารถเป็นที่อวัยวะเพศเราด้วย? ถ้ามีsex ตอนสามีมีตุ่ม หรือ เริ่มมีอาการแต่ไม่มีตุ่ม?
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
1. ในปัจจุบันนั้นทั้งเริมชนิดที่ 1 และ 2 ต่างก็มีโอกาสที่จะติดต่อได้ทั่งที่อวัยวะเพศและที่ปากเนื่องจากพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปครับ คำแนะนำสำหรับการป้องกันการติดต่อของเริมนั้นคือเมื่อไหร่ที่มีตุ่มน้ำหรือมีอาการแสบร้อนอยู่ก็ต้องงดการสัมผัสครับ เช่น ถ้าเป็นเริมที่ปากก็ต้องงดการทำ Oral sex การจูบ ถ้าเป็นเริมที่อวัยวะเพศก็ต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีตุ่มน้ำ เป็นต้นครับ
2. การมีลูกยังสามารถมีลูกได้ครับ เพียงแต่ว่าถ้าหากในช่วงใกล้คลอดมีเริมที่อวัยวะเพศกำเริบขึ้นมาก็อาจต้องใช้การผ่าคลอดแทนครับ
3. มียาที่สามารถใช้รับประทานเพื่อป้องกันเริมกำเริบในคนที่มีอาการบ่อยๆได้ครับ สามารถไปปรึกษาแพทย์อายุรกรรมเพื่อรับยาได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอนที่เป็นเริมก็ไม่ได้จูบ หรือ oral sex เลยนะคะคุณหมอ 1 wksที่เป็นแผลแห้งดีประมาณวันที่5 ครบ 7วันคือปกติเลยค่ะ แต่ก็ยังรออีก 1 wks รวมทั้ง2 wks ที่ไม่ได้จูบ หรือoral sex เลยสงสัยว่าทำไมสามีถึงติดได้ หรือเชื้อยังคงเหลืออยู่ แค่ไม่แสดงอาการ? ค่ะ
มีอีกข้อค่ะ ที่สงสัย สำหรับคำถามที่1 คือถ้า สามีติดเชื้อเริมประเภทที่1 ที่อวัยวะเพศ ถ้ามีsex กัน เราก็สามารถเป็น ประเภทที่1 ที่อวัยวะเพศได้ด้วยใช่ไหมค่ะ (ถึงแม้ว่าเราจะมีเชื้อเริมประเภทที่1ที่ปากแล้วก็ตาม) ก็สามารถเป็นที่อวัยวะเพศเราด้วย? ถ้ามีsex ตอนสามีมีตุ่ม หรือ เริ่มมีอาการแต่ไม่มีตุ่ม?
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ตอนที่ไม่มีรอยโรค ไม่มีตุ่มใส ก็สารมารถติดกันได้ครับเพียงเเต่ โอกาสจะน้อยกว่าช่วงที่รอยโรคกำลังเกิดขึ้นครับ
ซึ่งอย่างที่บอกว่า เเม้ HSV1จะพบมากที่ปาก HSV2จะพบมากที่อวัยวะเพศ
เเต่ปัจจุบันก็เจอได้หมดครับ จากพฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปครับ
เเต่อาการเเสดงอาจต่างกัน เช่น ถ้าHSV1ไปติดที่อวัยวะเพศ ตอนเป็นครั้งเเรก จะปวดมาก เเต่โอกาสเป็นซ้ำนั้นน้อย โอกาสติดต่อไปอีกก็น้อย ในขณะที่ถ้า HSV2ติดที่อวัยวะเพศ จะเป็นซ้ำได้บ่อย
หรือถ้าHSV2ติดที่ปาก ส่วนใหญ่จะมีอาการน้อย บางคนไม่มีอาการเป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สรุปก็คือเมื่อสามีเป็น HSV1ที่อวัยวะเพศ ก็ยังสามารถแพร่เชื้อให้กับเราที่อวัยวะเพศได้ ถึงแม้ว่าเรามีเชื้อHSV1 ใน nerve แล้วก็ตามแต่ดิฉันก็สามารถเป็นที่อวัยวะเพศได้ แต่โอกาสที่HSV1ที่อวัยวะเพศ จะเป็นน้อยมากๆ ดิฉันเข้าใจถูกต้องหรือป่าวค่ะคุณหมอ?
สวัสดีค่ะคุณหมอก่อนจะถามคำถามขอเกริ่นข้อมูลส่วนตัวก่อนนะคะ ดิฉันเป็นเริมที่ปากตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นซึ่งตอนที่เป็นก็ไม่มีแฟน ไม่เคยจูบกับใครเลย ก็สงสัยว่าเป็นได้ยังไง แต่พอหาข้อมูลดู บอกสามารถติดได้จากการกิน เช่นดื่มน้ำแก้วเดียวกันกับเพื่อนที่เป็น หรือใช้ของร่วมกัน แต่ช่วงนั้นก็สังเกตุคนรอบข้างตัวเอง ก็ไม่มีใครเป็น แต่ก็ชั่งมันเถอะค่ะ นานมากแล้ว มาเข้าเรื่องปัจจุบันดีกว่าค่ะ เมื่อเดือนที่แล้วเริมที่ปากกลับมาเป็นอีกแล้วค่ะ แต่ไม่เยอะ มีแค่1 ตุ่มน้ำ พอครบ 1 อาทิตย์ก็หายไป แผลแห้ง หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ต่อมาก็มี Sex กับ สามี โดยทำการ oral sex ให้สามี 2ครั้ง หลังจากนั้นเกือบ 1 อาทิตย์ สามีเป็นเริมที่อวัยวะเพศ มีตุ่มน้ำขึ้น 3 ตุ่มเล็กๆที่อวัยวะเพศ คำถามคือ 1. ถ้ามีเพศสัมพันธ์กัน ดิฉันจะติดเริมประเภทที่1ที่อวัยวะเพศไหมค่ะ ? (ดิฉันคิดว่าสามีน่าจะเป็นเริมประเภทที่1 แต่เป็นที่อวัยวะเพศเพราะติดจากดิฉันที่ทำoral sex) สามีไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกผิดมากๆเลยค่ะ 2.วางแผนว่าจะมีลูกในปีนี้ ลูกจะเป็นเริมด้วยไหมค่ะ? 3.พอจะมียาทานป้องกันไม่ให้เป็นเริมที่อวัยวะเพศไหมค่ะ ? ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)