มึนงง หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ใจหวิวๆ ท้องไส้ปั่นป่วน มีอาการคลื่นไส้ด้วย ตอนกลางคืนหลับยาก แต่ตื่นง่าย จำอะไรในช่วงเวลาสั้นๆไม่ได้โง่เลยแหละค่ะสายตาพร่ามัว ดูทุกอย่างที่มันเคลื่อนที่ก็ตาลาย อาการแบบนี้เป็นโรคอะไร ร้ายแรงมั้ยคะ คือตอนนี้กลัวมากเลยค่ะ

อาการดังกล่าวอาจเป็นได้ทั้งจากสาเหตุทางกายและจากสาเหตุทางจิตใจ
-สาเหตุทางกาย อาจเกี่ยวกับภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล หรืออาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นในระบบเลือด หัวใจ ระบบย่อย ก็เป็นไปได้
-สาเหตุทางจิตใจ อาจเกิดได้จากความตึงเครียดหรือความวิตกกังวล ซึ่งส่งผลให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานมากเกินปกติ เช่น ใจสั่น วูบ หน้ามืด ปวดตึงกล้ามเนื้อ ท้องไส้ปั่นป่วน คลื่นไส้อาเจียน หากมีอาการต่อเนื่องนานๆก็จะส่งผลต่อพฤติกรรมการนอน นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท หลับยาก การกิน เบื่ออาหาร ทานได้น้อย หรือทานได้มากเกินปกติ นอกจากนั้นอาจส่งผลต่อสภาพอารมณ์ทำให้หงุดหงิดง่าย หรือมีภาวะซึมเศร้าเกิดขึ้นได้ค่ะ

ดังนั้น เมื่อมีอาการแรกเริ่ม ควรสังเกตอาการ หาสาเหตุของอาการให้แน่ชัดด้วยการไปตรวจหาสาเหตุทางร่างกายก่อน หากคุณหมอตรวจไม่พบความผิดปกติของทางร่างกาย ก็ต้องไปตรวจหาสาเหตุทางจิตใจเป็นลำดับต่อไป ค่ะ

ในกรณีดังกล่าว ถ้าคุณไม่มีโรคประจำตัวใดๆ และก่อนนี้เป็นคนที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี อยากแนะนำให้ทำแบบประเมินความเครียดด้วยตัวเองก่อน ตามนี้นะคะ
ให้สำรวจอาการในระยะเวลา 2 เดือน ว่ามีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน และให้คะแนนตามระดับความถี่ของอาการดังนี้
ไม่เคยเลย 0 คะแนน , ครั้งคราว 1 คะแนน, บ่อยๆ 2 คะแนน ,ประจำ 3 คะแนน
1. นอนไม่หลับ เพราะมีเรื่องกังวลใจหรือคิดมาก
2. รู้สึกหงุดหงิด รำคาญใจ
3. ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะประสาทตึงเครียด
4. รู้สึกวุ่นวายใจ
5. ไม่อยากพบปะผู้คน
6. ไม่มีความสุข รู้สึกเศร้าหมอง
7. ปวดหัวข้างเดียวหรือปวดขมับ 2 ข้าง
8. รู้สึกหมดหวังในชีวิต
9. รู้สึกว่าชีวิตตนเองไร้คุณค่า
10. กระวนกระวายตลอดเวลา
11. ขาดสมาธิ
12. อ่อนเพลีย ไม่มีแรงที่จะทำอะไร
13. เหนื่อยหน่ายไม่อยากทำอะไร
14. ใจเต้นแรง
15. เสียงสั่น ปากสั่น มือสั่นเมื่อรู้สึกไม่พอใจ
16. กลัวผิดพลาดในการทำสิ่งต่างๆ
17. ปวดเกร็งบริเวณท้ายทอย หลัง ไหล่
18. ตื่นเต้นง่ายกับเหตุการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
19. มึนงง วิงเวียนศีรษะ
20. ความสุขทางเพศลดลง ขาดความใส่ใจในการดูแลตัวเอง

หากคะแนนรวมมากว่า 17 คะแนน หมายความว่า คุณมีความเครียดในระดับที่สูงเกินปกติ ซึ่งควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียดให้เหมาะสม หรือควรเข้าพบจิตแพทย์เพื่อรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมนะคะ

มันอาจไม่ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิตนะคะ..แต่มันจะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา อาจทำให้ระบบสุขภาพโดยรวมแย่ลง เจ็บป่วยด้วยโรคอื่นๆได้ง่าย ประสิทธิภาพในการเรียน การทำงาน แย่ลง มีปัญหาอารมณ์และส่งผลกระทบต่อสัมพันธภาพต่อบุคคลอื่นรอบตัวได้ค่ะ
ในกรณีที่ยังไม่พร้อมไปพบจิตแพทย์ อยากให้หาวิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ เช่น การฝึกกำหนดลมหายใจเข้าออก การออกกำลังกายเป็นประจำ การพักผ่อนหย่อนใจในสถานที่ที่ปลอดโปร่ง การทำกิจกรรมที่ชื่นชอบเป็นต้น แต่หากลองปรับแล้วยังคงมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ และมีอาการทางร่างกายผิดปกติอยู่คงเดิมหรือมีอาการแย่ลง ก็ต้องไปพบจิตแพทย์ ซึ่งคุณหมออาจจะต้องประเมินอาการและพิจารณาใช้ยาในการรักษาร่วมกับการทำบำบัดตามความเหมาะสมนะคะ