คันอวัยวะเพศมากค่ะ คันตลอดเลย แดงด้วยค่ะ มีตุ่มแต่ไม่เยอะค่ะ เวลาจับก็จะเจ็บแสบ เวลาเข้าห้องน้ำก็จะแสบอวัยวะเพศมากค่ะ ไม่สบายตัวเลยค่ะ ทำใจบอกพ่อแม่ไม่ได้ด้วย เป็นมาประมาณ 4 วันแล้วค่ะ ควรทำยังไงดีคะ

สวัสดีค่ะ ก่อนจะรักษาควรได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนค่ะ จึงจะเลือกการรักษาที่เหมาะสมได้ ถ้ามีประวัติว่ามีเพสสัมพันธ์ การเกิดตุ่มหรือผื่นที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

- เริม มักเป็นตุ่มน้ำใสหลาย ๆ ตุ่ม ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดแสบร่วมด้วย
- แผลริมแข็ง หรือ ซิฟิลิส
- หนองใน
- หูดหงอนไก่
ฯลฯ
แต่หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก้อน อาจจะเกิดจากผิวหนังอักเสบ จากการระคายเคือง หรือผิวแห้งได้ค่ะ
แต่ละโรคก็มีการรักษาต่างๆ กันไป บางโรคต้องรักษาคู่นอนด้วย หากเป็นจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ควรสวมถุงยางอนามัย หากเกิดจากการติดเชื้อก็ควรรักษาความสะอาดและสุขอนามัยเบื้องต้น ที่สำคัญไม่ควรใช้มือเกาเพราะมือของเราสกปรกอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการซักถามประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากมีความจำเป็นค่ะเพื่อช่วยในการวินิจฉัยค่ะ

สวัสดีค่ะ ประวัติที่ให้มา อาจต้องซักประวัติการมีเพศสัมพันธ์เพิ่มเติม มีตกขาวผิดปกติหรือไม่ และลักษณะผื่นที่อวัยวะเพศ มีตุ่มน้ำใส หรือตุ่มบนปื้นแดงๆ ขุยๆหรือเปล่าคะ เพราะอาจเกิดได้หลายสาเหตุ

เช่น หากคันบริเวณอวัยวะเพศ มีผื่นแดงๆ เป็นขุยๆ มักขึ้นตามรอยพับ เช่น ขาหนีบ เพราะเป็นบริเวณที่อับชื้นได้ง่าย ถ้ามีอาการเหล่านี้ จะสงสัย เชื้อรา ที่ชื่อ candidiasis ซึ่งจะได้รับการขูดผิวหนังบริเวณดังกล่าว เพื่อไปย้อม เพื่อดูการติดเชื้อ หากพบเชื้อราจริง จะได้รับยาทา ในกรณีที่เป็นไม่มาก แต่หากกระจายทั่ว อาจได้รับยาชนิดรับประทานร่วมด้วยค่ะ ทั้งนี้ต้องรักษาความสะอาดไม่ให้อับชื้อ ใส่เสื้อผ้าโปร่งสบาย และไม่ใส่เสื้อผ้าร่วมกับคนอื่น

หรือหากเป็นตุ่มน้ำใสๆขึ้น และมีอาการเจ็บ ตุ่มน้ำอาจแตกเป็นตุ่มหนองได้ อาจสงสัยโรคเริมบริเวณอวัยวะเพศได้ค่ะ การรักษาก็จะแตกต่างกัน ทั้งนี้แนะนำให้มาตรวจที่รพ. เพื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้องค่ะ