สวัสดีค่ะคุณหมอ อยากทราบเกี่ยวกับอาการของน้องหมาค่ะ น้องอยู่ในช่วงหลังติดสัดค่ะ แล้วอยู่ๆน้องก็กินข้าวได้มากขึ้นจากปกติ แล้วจากนั้นน้องก็เพิ่งมีอาการไม่ยอมกินข้าวในช่วงเย็น เป็นประมาณ 2 วันแล้วค่ะ แต่น้องไม่มีอาการซึม ยังร่าเริง วิ่งเล่นได้ปกติ ลองเปิดเหงือกน้องดูก็ไม่ซีด แต่น้องมีอาการอาเจียนเป็นสีเหลืองมีฟองออกมาค่ะ (อาเจียนมา 2 ครั้งแล้ว แต่อาเจียนคนละวัน ไม่ได้ต่อเนื่องกัน) ได้ยินเสียงท้องร้องด้วย ตอนกลางคืน น้องมีอาการกระสับกระส่าย เดินไปเดินมา เปลี่ยนที่นอน น้องเป็นโรคอะไรร้ายแรงหรือเปล่าคะ? กังวลมากๆค่ะ

อาเจียนเวลาไหนคะ หลังกินอาหารหรือว่ามื้อที่ไม่ได้กินอาหารแล้วอาเจียน น้องอายุเท่าไหร่คะ สาเหตุการอาเจียนเกิดได้หลายสาเหตุ
1. มีการติดเชื้อทางเดินอาหาร เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เป็นต้น แต่มักมีอาการท้องเสียร่วม บางตัวอาจซึม ไม่กินอาหารได้
2. มีปัญหากระเพาะอาหารอักเสบ เป็นแผลหลุม เนื้องอกหรือมะเร็งในทางเดินอาหาร มีการอุดตันในทางเดินอาหาร เป็นต้น
3. มีปัญหาเป็นโรคอื่นๆที่ทำให้อาเจียน เช่น โรคตับ โรคไต ตับอ่อนอักเสบ มดลูกอักเสบ เบาหวานเป็นพิษ เป็นต้น สุนัขมักมีอาการซึม ไม่กินอาหารร่วมค่ะ
การวินิจฉัย จากประวัติ อายุ การตรวจร่างกาย ตรวจอุจจาระ ตรวจเลือดหรือ xrayและอัลตราซาวน์เพิ่มเติมตามสาเหตุที่สงสัยค่ะ การรักษาขึ้นกับสาเหตุที่เป็นค่ะ หากอาการไม่ดีขึ้นแนะนำให้พาไปตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมนะคะ

ลองปรับการกินอาหารดูอีกทีนะคะ หากไม่กินให้ลองป้อน หากกินอาหารแล้วยังอาเจียน หรือน้องซึมลง แนะนำให้พาไปตรวจเพิ่มเติมนะคะ
ส่วนสาเหตุการคันเกิดได้จาก
1. มีการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อยีสต์ เชื้อรา ไรขี้เรื้อน ปรสิตภายนอกพวกเห็บหมัด เหา ไรขน ไรในหู หากเกาหรือสะบัดหูบ่อย
2. ไม่ได้เกิดการติดเชื้อ มักพบว่าเกิดจากการแพ้ จะแพ้น้ำลายเห็บหมัด แพ้แชมพู แพ้อาหารหรือเป็นภูมิแพ้ก็ได้ค่ะ
3.โรคฮอร์โมน มักพบในสุนัขอายุมาก เช่น Cushing disease hypothyroidism เป็นต้น ตัวโรคไม่ทำให้คัน แต่หากมีการติดเชื้อแทรกซ้อน จะทำให้สุนัขคันได้ค่ะ
การวินิจฉัย วินิจฉัยจากอายุ เพศ พันธุ์ การเลี้ยงดู เลี้ยงในบ้านหรือนอกบ้าน มีการป้องกันเห็บหมัดเป็นประจำหรือไม่ อาหารที่ให้ แชมพูที่ใช้และความถี่การอาบน้ำ การตรวจผิวหนังค่ะ คุณหมอจะแปะตรวจผิวหนังไปดูเชื้อแบคทีเรีย เชื้อยีสต์ ขูดตรวจไรขี้เรื้อน เก็บขี้หูหากพบช่องหูผิดปกติ ส่องไฟตรวจเชื้อรา เก็บตัวอย่างขนและสะเก็ดตามผิวหนังเพาะเชื้อรา หากสงสัยการแพ้อาหารต้องเปลี่ยนอาหารเป็นสูตรสำหรับแพ้โดยเฉพาะกินอย่างน้อย 2-3 เดือน ดูการตอบสนอง หรือหากสงสัยภูมิแพ้ แนะนำทำเทสว่าแพ้อะไร หรือสงสัยโรคฮอร์โมน เจาะเลือดส่งตรวจ บางรายหากตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติ อาจต้องตัดชิ้นเนื้อที่ผิวหนังส่งตรวจร่วมค่ะ
การรักษาขี้นกับสาเหตุที่เป็น หากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย ให้นาปฏิชีวนะ กินอย่างน้อย 1-2 เดือน หากเป็นเชื้อยีสต์หรือรา ให้ยารักษาเชื้อรา กินนานมากกว่า 1 เดือนเช่นกัน หากมีปรสิตภายนอก ใช้ยาหยอดหลังหรือใช้รูปแบบยากินในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อค่ะ หากมีไรในหู ให้ยาหยอดหูฆ่าไร ร่วมกับยาหยดหลังหรือยากิน หากเกิดจากการแพ้ ต้องเลี่ยงสิ่งที่ทำให้แพ้ แพ้แชมพูให้เปลี่ยนแชมพูเป็นสูตรแพ้ง่าย แพ้น้ำลายหมัด ต้องเคลียร์หมัดบนตัวโดยการหยอดหลังหรือยากิน หากแพ้อาหาร ต้องเปลี่ยนอาหาร หากเป็นภูมิแพ้ ต้องเลี่ยงสิ่งที่ทำให้แพ้ แต่บางครั้งเราไม่สามารถเลี่ยงได้ ต้องใช้การรักษาทางยาแทน โดยการให้ยาแก้แพ้ บางรายต้องให้ สเตียรอยด์ บางตัวต้องกินตลอดชีวิต ซึ่งมีผลข้างเคียงสูง แนะนำให้พาน้องไปตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดการคันเพื่อรักษาสาเหตุต่อไปนะคะ