October 10, 2018 07:16
สวัสดีค่ะ คำถามของคุณอาจกว้างเกินไป ทำให้คุณหมอไม่สามารถให้ความเห็นได้ กรุณาอธิบายอาการอย่างละเอียดว่าเป็นอย่างไร บริเวณไหน เป็นมานานและถี่แค่ไหน รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น เพศ อายุ ยาหรืออาหารเสริมที่ทานอยู่ เป็นต้น หรือคุณอาจค้นหาคำตอบคุณหมอ และกว่า 5,000 บทความสุขภาพในเว็บของเรา หากคุณถามเกี่ยวกับโรงพยาบาล คุณสามารถค้นหาข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลได้ที่นี่ หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected] ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
รบกวนช่วยอธิบายเพิ่มเติมสักหน่อยนะครับ
ว่า ตุ่มที่ขึ้นนั้นมีลักษณะอย่างไร มีอาการคันหรือไม่ ตกขาวผิดปกติหรือไม่ ปัสสาวะแสบขัดหรือไม่
และอื่นๆ อีกเป็นต้น
ถ้าหากว่าไม่ได้บอกลักษณะของตุ่ม ก็อาจจะไม่สามารถสันนิษฐานเบื้องต้นได้ครับ
เพราะคำว่า ตุ่มนั้นมีหลากหลายสาเหตุมาก ยกตัวอย่างเช่น
1.ตุ่มที่เกิดจากเริม สามารถเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศได้ มักจะเป็นตุ่มน้ำใส มีอาการแสบ ปวดมาก ถ้าหากพึ่งเคยเป็นในครั้งแรก แต่ถ้าเคยเป็นมาแล้ว ในครั้งต่อๆไป อาจจะมีอาการไม่รุนแรง อาจมีอาการอื่นๆได้ เช่น มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปัสสาวะแสบขัด ตกขาวผิดปกติ วิธีการรักษาคือการใช้ยา Acyclovir ซึ่งมีทั้งชนิดทา และชนิดรับประทานครับ การรับประทานยาในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังตุ่มขึ้น จะมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดจำนวนตุ่มและความรุนแรงลงได้ครับ
2.ตุ่มที่เกิดจากหูด โดยเฉพาะหูดหงอนไก่ มักมีลักษณะตุ่มคล้ายดอกกระหล่ำ ยื่นออกมาบริเวณผิวหนัง อาจมีอาการคันในบริเวณดังกล่าวได้ ตกขาวผิดปกติ วิธีการรักษาจะมีหลายวิธี เช่น การแต้มยาฆ๋าเชื้อหูด การผ่าตัด การยิงเลเซอร์ การจี้ด้วยความเย็นหรือไฟฟ้า ในกรณีที่มีตุ่มขึ้นเยอะ อาจจะต้องมาทำการรักษาหลายๆครั้ง และมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีกครับ
3.ซิฟิลิส โดยมักจะเป็นแผลเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ ก้นแผลดูสะอาด มักไม่มีอาการปวดหรือแสบ เมื่อไม่ได้ทำการรักษาแผลนั้นจะสามารถหายไปได้เอง แต่เชื้อยังคงอยู่ในร่างกาย และจะเข้าสู่ในระยะที่ 2 และระยะที่ 3 นั่นคืออาการของโณคจะรุนแรงมากขึ้น วิธีการรักษา คือการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อ ติดตามระดับภูมิคุ้มกัน และให้ยาปฏิชีวนะครับ
4.ตุ่มที่เกิดจากการแพ้สาร/ระคายเคือง มักจะขึ้นเป็นผื่นนูนแดง มีอาการคันมาก มักจะไม่มีอาการอื่น เช่น ปัสสาวะแสบขัด ตกขาวผิดปกติ รักษาได้โดยการรับประทานยาแก้แพ้ หรือทายาแก้แพ้ ร่วมกับสวมใส่กางเกงหรือชั้นในที่ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น และหลีกเลี่ยงสารหรือสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดผื่นแพ้
ส่วนตุ่มที่เกิดจากเชื้อ HIV นั้นมักจะขึ้นตามแขนขา และลำตัวมากกว่าครับ รวมถึงมีอาการคันด้วย แต่เมื่อผื่นนั้นเกิดขึ้นบ่งบอกว่า ร่างกายเราเริ่มมีภูมิคุ้มกันต่ำแล้ว อย่างไรก็ตามในคนที่มีเชื้อ HIV ไม่จำเป็นที่จะต้องมีตุ่มขึ้นเสมอไป
ในกรณีนี้ถ้าหากว่ากังวลว่าตัวเองจะมีเชื้อ HIV หรือไปรับความเสี่ยงมา แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อขอรับบริการตรวจเลือดหาเชื้อก่อนนะครับ รวมถึงพบแพทย์เพื่อทำการตรวจภายในรักษาตุ่มที่เกิดขึ้นที่อวัยวะเพศด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเม็ดตรงอวัยวะเพศหญิงมาก เรียกว่าเอดส์หรือไม่?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)