อยากให้พ่อเลิกบุหรี่ครับ ซึ่งเจ้าตัวเองก็บอกเองว่าอยากเลิกแต่ใจไม่แข็งพอ ส่งตัวเลยคิดว่าจะต้องพึ่งยาครับ ข้อมูลส่วนตัวพ่อครับ 1. เริ่มสูบตอนอายุ 17 (เริ่มจริงจรังอายุ 30 )ปัจจุบัน 52 เฉลี่ยปัจจุบันสูบวันละ 1 ซอง 2. มีโรคประจำตัวนิ่วในไต ยูเรต 3. มีโรคไขมันในเลือดสูง ปัจจุบันกินยาและออกกำลังกาย ดีขึ้นแล้ว 4.ปกตินอนวันละ 7-8 ชม เป็นคนนอนหลับง่ายมาก หลับลึก มีอาหารกรน ตื่นเป็นเวลา

สวัสดีครับ
ในช่วงที่เลิกบุหรี่นั้นอุปสรรคสำคัญที่ทุกคนต้องเจอคืออาการอยากบุหรี่และอาการที่เกิดจากการถอนฤทธิ์ของสารนิโคตินครับ อาการเหล่านี้มักเป็นมากในช่วง 3-4 วันแรกของการหยุดบุหรี่จากนั้นอาการก็มักจะค่อยๆลดลงจนหายไปได้ใน 3-4 สัปดาห์ครับ ถ้าหากสามารถผ่านช่วงเวลาที่มีอาการเหล่านี้ไปได้ก็มักจะเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ

ในกรณีที่ไม่สามารถทนกับอาการดังกล่าวได้ ในปัจจุบันก็มียาที่ใช้ลดอาการเหล่านี้ให้เลือกใช้ได้อยู่หลายชนิด ทั้งในรูปแบบยากอน แผ่นแปะผวหนัง และหมากฝรั่ง แต่การใช้ยาเหล่านี้ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดครับ

หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรพาคุณพ่อไปพบแพทย์ที่หน่วยเลิกบุหรี่ของโรงพยาบาลที่สะดวกก่อน เพื่อที่จะได้ให้การความช่วยเหลือในการเลิกบุหรี่ต่อไปครับ

สวัสดีค่ะ หากพ่อให้ความร่วมมือในการเลิกบุหรี่ และมีกำลังใจดีในการคิดที่จะเลิกบุหรี่ แนะนำให้พาคุณพ่อเข้าปรึกษาคลินิกเลิกบุหรี่ ตามโรงพยาบาลที่สะดวกได้เลยค่ะ วิธีการรักษาผู้ที่ติดบุหรี่ หากเลิกด้วยตนเอง ในผู้ที่สูบบุหรี่มาเป็นเวลานาน หลังหยุดสูบบุหรี่ อาการและอาการแสดงของการขาดนิโคตินสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากหยุดสูบบุหรี่ แต่โดยทั่วไปแล้วอาการขาดนิโคตินจะเริ่มเกิดขึ้นระหว่าง 24 –48 ชั่วโมงหลังจากเลิกสูบบุหรี่และจะคงอยู่ต่อไป 2-3 วัน จนถึง 4 สัปดาห์ได้ค่ะ ดังนั้นหลายท่าน ทนอาการขาดนิโคตินไม่ได้ก็มักจะยอมแพ้ และหันกลับไปสูบบุหรี่ต่อค่ะ

การรักษาขั้นแรกอาจให้เพียงคำแนะนำ วิธีปฏิบัติตัว ปรับพฤติกรรม บางท่านก็สามารถเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ
การรักษาขั้นที่ 2 หากปรับพฤติกรรมไม่ได้ผลต้องมีการให้นิโคตินทดแทนใช้ในผู้ที่มีการติดนิโคตินมากๆ โดยที่นิยมใช้ คือ หมากฝรั่งอดบุหรี่ และ แผ่นแปะนิโคติน
การรักษาขั้นที่ 3 การใช้ยาที่ไม่ใช่สารนิโตตินช่วยยาที่ใช้คือ Bupropion hydrochloride ต้องทานตามแพทย์สั่ง

ดังนั้นแนะนำว่าควรพาคุณพ่อปรึกษาแพทย์ในการเลิกบุหรี่ เพื่อมีแนวทางในการรักษาตามขั้นตอนค่ะ นอกจากนี้ควรให้กำลังใจผู้ป่วยมากๆ ในการเลิกบุหรี่ให้สำเร็จค่ะ

จริงๆ แล้วยาที่ใช้ในผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ จะเป็นยาที่ช่วยบรรเทาอาการถอนนิโคติน ซึ่งมักมีอาการในช่วงแรกที่หยุดบุหรี่ค่ะ

การเลิกบุหรี่ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การหักดิบ เริ่มต้นจาก กำจัดอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับบุหรี่ออกไปให้หมด หาสมุนไพรทดแทนเพื่อความอยากบุหรี่ เช่น กานพลู มะนาว หญ้าดอกขาว ในระหว่างที่หยุดสูบควรออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ หากิจกรรมที่ผ่อนคลายมาทำ หลีกเลี่ยงกลุ่มเพื่อนที่สูบบุหรี่ หากำลังใจจากคนใกล้ชิด

ในกรณีที่มีอาการถอนนิโคตินรุนแรง เช่น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย หงุดหงิด กระวนกระวาย ท้องไส้ปั่นป่วน แบบนี้แนะนำให้พบแพทย์ รับการรักษาด้วยยาเพื่อบรรเทาอาการ แล้วจะทำให้หยุดบุหรี่ได้นานขึ้น ค่ะ

ยาทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่ได้มีผลโดยตรงกับตัวโรคนิ่วในไตหรือการมีไขมันในเลือดสูงครับ แต่ยาทั้ง 2 ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยโรคไตหรือคนที่เป็นโรคหัวใจ ซึ่งการมีนิ่วในไตและการเป็นไขมันในเลือดสูงนั้นเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหล่านี้ได้ครับ

ในกรณีที่ต้องการเริ่มยาเพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่นั้นหมอแนะนำว่าควรได้รับการตรวจประเมินอาการและความเหมาะสมจากแพทย์โดยตรงก่อน เพื่อให้สามารถเลือกใช้ยาและขนาดยาได้เหมาะสมครับ