January 13, 2019 12:00
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นจะยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 2% ครับ ดังนั้นถ้าหากหลังจากมีเพศสัมพันธ์ได้มีประจำเดือนที่มีลักษณะผิดปกติไป หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ส่วนอาการเบือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือนนั้นก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการอักเสบติกเชื้อในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก
ในส่วนี้หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุดูครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปกติประจำเดือนมาทุกวันที่ 26 แต่เดือน พ.ย. ประจำเดินมาวันที่23 หมดประจำเดือนวันที่27 และได้มีเพศสัมพันธ์วันที่28,พย 1,5,6 ธค แบบใส่ถุง หลังจากนั้นวันที่12 ได้มีเลือดสีน้ำตาล ดำๆออกมาขนาดเท่านิ้วโป้งแห้งๆติดอยู่ และวันที่13 ได้มีเลือดออกมาพร้อมกับฉี่เพียงเล็กน้อยสีแดง มีอาการปวดท้องเล็กน้อยร่วมด้วย และวันที่14มีเลือดเหมือนประจำเดือนออกมาล้น1ผ้าอะนามัยแต่พอวันที่15ก็มีออกมาอีกนิดนึงและหมดไป แล้ววันที่11มกราก็มีเลือดออกมาประมานครึ่งผ้าอนามัยพอวันที่12ก็ไม่มีอะไรเลย แบบนี้คืออะไรค้ะ จะท้องไหมหรือมีอาการผิดปกติอะไรค้ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)