August 04, 2018 20:37
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการของโรคไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์สองขั้วนั้นเกิดจากการที่มีการทำงานของสาเคมีในสมองที่ผิดปกติ ทำให้มีอาการแสดงทางด้านอารมณ์ที่ผิดปกติออกมา โดยจะแบ่งอาการได้เป็น 2 ช่วง คือ
1. ช่วงที่มีอารมณ์ขั้วบวก
2. ช่วงที่มีอารมณ์ขั้วลบ
.ในช่วงที่มีอารมณ์เป็นขั้วบวกนั้น จะทำให้มีอารมณ์ร่าเริงหรือหงุดหงิดง่ายมากกว่าปกตินานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ร่วมกับมีอาการ
- รู้สึกมั่นใจในตนเองมากขึ้น รู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่เหนือคนอื่น
- มีความต้องการนอนลดลง
- มีความคิดแล่นเร็ว
- พูดเก่งขึ้น
- วอกแวกง่าย
- มีการทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้น มีเรี่ยวแรงที่จะทำนู่นทำนี่ตลอดเวลา
- มีการใช้เงินลงทุนมากเกินควร หรือใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยมากขึ้น
ส่วนอาการในช่วงขั้วลบนั้นจะเหมือนกับอาการของโรคซึมเศร้า คือ มีอารมณ์เศร้าหรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรอย่างไม่สามารถควบคุมได้หรือไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน เป็นอย่างต่อเนื่องนาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และมีอาการร่วม คีือ
- นอนไม่หลับหรือนอนหลับมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- ไม่มีสมาธิ
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- คิดโทษตัวเองบ่อยๆหรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการที่ทำให้สงสัยว่าจะเป็นโรคไบโพลาร์ได้ แนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมดูครับ ถ้าเป็นโรคไบโพลาร์จริงก็จะได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อาการเป็นแบบนี้เลยค่ะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเคยฆ่าตัวตาย3ครั้งแล้วก้อมารุ้สึกคิดได้อยากอยู่ต่อไปทำอะไรได้ทุกอย่างเก่งไปหมดเป็นๆหายๆบางทีก็ปกติแค่อารมณ์รุนแรงกว่าคนอื่นนิดหน่อยมั้งรึมากไม่รุ้สิแต่แฟนชอบบอกว่าผีเข้า5555
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าอาการเป็นไปตามนี้ก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคไบโพลาร์ได้สูงครับ
ถ้าเป็นเพียงแค่อารมณ์รุนแรงตามปกติ โดยมากมักจะต้องไม่มีการแกว่งของอารมณ์ และการแสดงออกของอารมณ์จะต้องเหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมที่มากระตุ้น รวมถึงไม่ควรที่จะมีความคิดอยากฆ่าตัวตายด้วยครับ
แนะนำให้ลองไปปรึกษาอาการกับจิตแพทย์ดูครับ โรคไบโพลาร์นั้นสามารถรักษาให้อาการดีขึ้นจนหายได้โดยการรับประทานยาเพื่อปรับอารมณ์ไม่ให้มีการแกว่งของอารมณ์ ร่วมกับการฝึกการจัดการความคิด ฝึกทักษะการผ่อนคลายเวลาที่มีอารมณ์เศร้า
ถ้าปล่อยให้อาการเป็นอยู่ต่อไปโดยไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลเสียหลายๆอย่างตามมา ทำให้กระทบต่อการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น การเรียน หรือการทำงานในอนาคตได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
พบจิตแพทย์ได้ทุกโรงพยาบาลรึป่าวคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในปัจจุบันประเทศไทยยังขาดแคลนจิตแพทย์อยู่ครับ ทำให้จิตแพทย์นั้นมีประจำอยู่เฉพาะในบางโรงพยาบาลเท่านั้น
ดังนั้นอาจจะต้องโทรไปสอบถามกับโรงพยาบาลที่สะดวกไปใช้บริการก่อนว่ามีจิตแพทย์ประจำอยู่หรือไม่
นอกจากนี้อาจใช้วิธีเข้าไปติดต่อที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาก่อนได้ครับ เนื่องจากจะช่วยให้สามารถรักษาได้ฟรีหรือมีค่าใช้จ่ายน้อยมาก ในกรณีที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาไม่มีจิตแพทย์ ก็สามารถขอให้ทางโรงพยาบาลออกหนังสือส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่มีจิตแพทย์ประจำอยู่ได้ครับ ซึ่งก็จะทำให้รักษาได้ฟรีเหมือนกับการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
แนะนำให้พบแพทย์ในโรงพยาบาลตามที่ตนมีสิทธิ์การรักษาพยาบาลก่อนก็ได้นะคะ หาก รพ. นั้นไม่มีจิตแพทย์ คุณหมออาจส่งต่อไปยัง รพ.ที่มีศักยภาพสูงกว่าที่มีจิตแพทย์ประจำนะคะ..แต่ปัจจุบันโรงพยาบาลประจำจังหวัดทุกโรงจะมีจิตแพทย์ออกตรวจ บางที่มีจิตแพทย์ประจำ บางที่ที่ยังไม่มีจิตแพทย์ ก็มีจิตแพทย์จากจังหวัดใกล้เคียงไปช่วยออกตรวจสัปดาห์ละ 1-2 วัน หรือ เดือนละ 1-2 ครั้ง แล้วแต่ รพ.สองโรงจะตกลงและบริหารจัดการค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าไปรพ.จะบอกเจ้าหน้าที่ยังงัยคะบอกว่ามาขอพบจิตแพทย์หรอคะมันก็ยังไงๆอยู่ไม่กล้าไปรพ.ก็เพราะแบบนี้แหล่ะค่ะไม่รู้จะบอกยังงัยดี
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ไปได้เลยครับว่าต้องการมาพบจิตแพทย์ และอาจให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย เศร้ามากกว่าปกติ
ไม่ต้องกังวลว่าเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลจะมองว่าไม่ดีครับ ในมุมมองของบุคลากรทางการแพทย์โดยทั่วไป ทุกคนจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับการพบจิตแพทย์อยู่แล้วว่า คนที่มาพบจิตแพทย์ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนที่เสียสติ หรือ เป็นบ้าเสมอไป เพราะขอบเขตโรคที่จิตแพทย์ดูแลรักษาอยู่กว้างกว่านั้นมาก จิตแพทย์นั้นดูแลผู้ป่วยตั้งแต่ โรคที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ที่ผิดปกติ โรควิตกกังวล โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคกลัวของบางอย่างที่มากเกินไป โรคที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและการปรับตัว โรคที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการรับประทานอาหาร โรคที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการนอน ฯลฯ
การไปพบจิตแพทย์ก็เหมือนกับการไปพบแพทย์เพื่อตรวจไข้หวัด ท้องเสีย หรืออาการอื่นๆทางกาย เพียงแต่เป็การตรวจเพื่อดูแลสุขภาพทางจิตใจเท่านั้น
การไปพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายหรือน่ากังวลครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาจแจ้งเจ้าหน้าที่ห้องเวชระเบียนว่าเราต้องการปรึกษาจิตแพทย์ และตัวเราเองควรปรับมุมมองใหม่ จิตแพทย์มีหน้าที่รักษาโรคทางด้านจิตใจ ซึ่งเกี่ยวกับความผิดปกติของความคิด อารมณ์ พฤติกรรมต่างๆ ก้ไม่ต่างกับแพทย์สาขาอื่น เช่น หากมีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธ์ก็ต้องพบสูตินรีแพทย์ กระดูกหัก ก็ต้องพบแพทย์ศัลยกรรมกระดูก เป็นต้น การที่เราวิตกกังวลไปก่อนล่วงหน้ามันทำให้เราเกิดความไม่แน่ใจ ลังเล ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดขาดโอกาสในการรักษาไป ซึ่งน่าเสียดายนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
รุ้สึกเหมือนเป็นโรคไลโพล่า
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)