March 29, 2019 22:56
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
ยาคุมกำเนิดรายเดือน มี 2 แบบค่ะ คือชนิด 28 เม็ด และ 21 เม็ด
ยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด ต่างจาก ชนิด 21 เม็ดตรงที่ 7 เม็ดสุดท้ายเป็นเม็ดแป้ง (หรือยาหลอก) มีไว้เพื่อกันการลืมรับประทานค่ะ
ดังนั้นการทำงานของยาทั้ง 2 แบบจะเหมือนกัน คือ
ยับยั้งการตกไข่ ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมน estradial (ขอแทนว่า E)และ อีกกลไกคือ ทำให้มูกเหนียวข้น อสุจิผ่านไม่ได้ กับ ทำให้ผนังมดลูกไม่เหมาะแก่การฝังตัว ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมน progesterone (ขอแทนว่า P) ค่ะ
ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดที่มีได้ทั่วไปคือ คลื่นไส้อาเจียน (ผลจาก estrogen E) เลือดออกกระปิดกระปอย (ผลจากโปรเจสเตอโรน P) น้ำหนักขึ้น (จาก P+E) หน้าเป็นฝ้า (จาก E) เจ็บเต้านม ปวดศีรษะ อารมณ์แปรปรวนได้ค่ะ
ถ้าหยุดรับประทาน ก็สามารถมีลูกได้ตามปกติค่ะ
การเลือกรับประทาน แต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกันที่ราคา และ สัดส่วนของปริมาณฮอร์โมน Eกับ P ค่ะ
จากผลข้างเคียงข้างต้น เช่นหากรับประทานยาที่มีสัดส่วน E สูง จะทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้มากกว่า เป็นต้นค่ะ
ลองสอบถามเภสัชกรของเลือกยี่ห้อได้ แล้วลองรับประทานดู เนื่องจากการเกิดผลข้างเคียงของยาแต่ละคนไม่เหมือนกันด้วยค่ะ
***การเริ่มรับประทาน ให้เริ่มภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนนะคะ จะมีผลคุมกำเนิดได้ทันทีค่ะ
หรือหากต้องการเริ่มหลังวันที่มีประจำเดือน ก็สามารถทำได้ค่ะ โดยต้องทานติดต่อกันอย่างน้อย 7 เม็ด (7วัน) จึงจะเริ่มออกฤทธิ์คุมกำเนิดค่ะ
หากทานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน ไม่ลืม ไม่ขาดยา โอกาสในการตั้งครรภ์น้อยกว่า 0.3%ค่ะ
นอกจากนี้แล้ว ยังมีการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆอีก เช่น การฝังยาคุม การฉีดยาคุม การใส่ห่วงคุม เป็นต้น ล้วนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป การเลือกใช้ขึ้นกับความสะดวกของแต่ละคนเลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การเริ่มรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ดเป็นครั้งแรกนั้นสามารถทำได้ 2 วิธีครับ คือ
1. รับประทานยาเม็ดแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน วิธีนี้จะมีผลให้ยาคุมสามารถออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีหลังรับประทานยา
2. ถ้าหากมั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ เช่น ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันมาก่อนหน้านี้ ก็สามารถเริ่มรับประทานยาในทันทีที่ต้องการได้ครับ แต่ถ้าหากรับประทานยาด้วยวิธีนี้ก็จะต้องรับประทานยาติดต่อกันนานอย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ และในช่วง 7 วันแรกของการรับประทานยานั้นก็จะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
โดยปกติ การใช้ยาคุมแผงแรกจะแนะนำให้ใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ และหากใช้ทันช่วงเวลานี้ ยาจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งไข่ที่จะกำลังจะตกในรอบเดือนนั้นได้เลย จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันที สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย ................................................................................................................................................................................................................................ แต่ถ้าใช้ยาคุมแผงแรกไม่ทันช่วงเวลาดังกล่าว จะใช้ได้ในกรณีที่มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่นะคะ แต่เนื่องจากยาอาจยับยั้งไข่ที่กำลังจะตกในรอบเดือนนั้นไม่ทัน จึงต้องรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ค่ะ ดังนั้น ในช่วงแรกจึงควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนจนกว่าจะมีผลคุมกำเนิดจากยา อย่างไรก็ตาม การใช้ในกรณีนี้จะทำให้ประจำเดือนรอบนี้เลื่อนช้าออกไปตามลักษณะของยาคุมที่ใช้นะคะ ................................................................................................................................................................................................................................ ในกรณีของผู้ถาม หากแฟนผู้ถามใช้ถุงยางอนามัยถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากค่ะ ดังนั้น หากต้องการใช้ยาคุมรายเดือน ก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยต่ออีกจนกว่าจะรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันจนครบ 7 วันนะคะ และประจำเดือนก็จะเลื่อนออกไปด้วยค่ะ ................................................................................................................................................................................................................................ แต่ถ้าใช้ถุงยางไม่ถูกต้องและมีการรั่วซึมหรือฉีกขาด แล้วเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมา แม้จะรับประทานยาคุมรายเดือนต่อไป การตั้งครรภ์นั้นก็จะยังอยู่เหมือนเดิมนะคะ ................................................................................................................................................................................................................................ ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ก่อนใช้ยาแน่นอน และไม่ทำให้ประจำเดือนเลื่อนช้าออกไปมากขึ้น แนะนำให้ใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วรอให้ประจำเดือนมา จึงค่อยเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
มีอะไรกับแฟนครั้งแรก ป้องกันโดยการใส่ถุง+หลั่งนอก แต่อยากกินยาคุมแบบ 28 เม็ดด้วย แต่ยังไม่เคยกินยาคุมใดๆเลย แบบนี้ต้องเริ่มกินยาคุมตอนไหนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)