October 10, 2018 01:30
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน และมีการสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปส่วนหนึ่งแล้ว มีโอกาสที่จะทำให้ติดเชื้อ HIV ได้ครับ ซึ่งในกรณีที่เป็นการสอดใส่ทางทวารหนักนี้ โอกาสติดเชื้อจะอยู่ที่ 0.65%
อย่างไรก็ตามการติดเชื้อ HIV ในระยะแรกนั้นจะไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจนครับ อาการที่เกิดขึ้นมักใกล้เคียงกับการติดเชื้อไวรัสทั่วไปทำให้แยกอาการจากกันไม่ได้ และในบางคนก็อาจไม่มีอาการแสดงใดๆเลยก็ได้ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดหาการติดเชื้อดูจะเป็นวิธีที่ยืนยันได้ดีที่สุดว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ครับ ซึ่งในตอนนี้ที่ผ่านเหตุการณ์มากว่า 2 สัปดาห์จะเริ่มตรวจพบการติดเชื้อได้แล้วครับ ทั้งนี้แพคอาจมีการเจาะเลือดติดตามเป็นระยะที่ 1 และ 3 เดือนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผมมีเพศสัมพันธ์ภายนอก(เรียกแบบนี้ถูกไหมครับ)กับคนแปลกหน้า แต่เขาจะใส่เข้ามาทางทวารหนักตอนเผลอ มันเข้ามาได้แค่ส่วนหัวอวัยวะเพศ เสี่ยงติดเชื้อHIVมากไหมครับ ระยะเวลาหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2 สัปดาห์ครึ่ง หลังจากผมลองศึกษาอาการหลังจากได้รับเชื้อHIVแล้ว มีลักษณะตรงกับที่อ่านศึกษาบางประการครับ เช่น มีฝ้าขาวขนาดประมาณครึ่งเซนติเมตร 2 ที่บริเวณริมฝีปาก , อาการปวดหัวบริเวณขมับและบริเวณท้ายทอย(ผมไปคลินิกแล้วหมอวินิจฉัยว่าเป็นไมเกรนออร่าครับ), ไม่มีผื่นตามตัว, ไม่มีไข้ , ไม่มีต่อมน้ำเหลืองบวม(ผมสังเกตด้วยตนเอง จึงไม่มีความมั่นใจเท่าไรนัก แต่ไม่เห็นว่าบริเวณรักแร้ ขาหนีบและลำคอจะบวมผิดปกติ) ,มีอาการชาบริเวณปลายนิ้วบางครั้ง(หมอที่คลินิกทราบเรื่องอาการชาด้วย เป็นอาการที่มีส่วนการวินิจฉัยของหมอว่าเป็นโรคไมเกรนออร่า), สามารถเขียนหนังสือได้ตามปกติและไม่มีการรุ้สึกหมดแรงจนทำให้สิ่งของที่ถืออยู่หล่น รบกวนหมอทุกท่านช่วยพิจารณาและให้คำแนะนำแก่ผมด้วยครับ ขอบคุณครับ ด้วยความเคารพอย่างสูง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)