อยู่มหาลัยแล้วนะคะ อยากถามว่า ช่วงสอบปกติเป็นคนขี้เกียดมาก จะไม่อ่านหนังก่อนล่วงหน้า ชอบมาอ่านวันก่อนสอบหรือคืนที่จะสอบ รู้นะคะว่าอ่านไม่ทันจะสอบไม่ค่อยได้แต่ก็ไม่อ่าน นั่งไถโทรศัพท์เล่นไปเรื่อย ทำยังไงก็ไม่ยอมอ่านหนังสือ ต้องรอจนดึก 5ทุ่มขึ้นไปถึงอ่าน แล้วพออ่านไม่ทันเพราะมันเยอะก็ตะเครียด คิดมากคิดจนปวดหัวจนบางทีก็โต้รุ่งไม่ได้นอนไปสอบเลย ปกติแล้วเป็นคนร่าเริงไม่ค่อยคิดมาก ถ้ามีอะไรเครียดก็คือแปปๆหาย เป็นคนฮีลตัวเองเก่งมาก เพื่อนๆยังบอกว่าทำได้ไง แต่เป็นแค่คืนก่อนสอบนะคะอาการแบบนี้ พอได้สอบแล้วก็หาย

สวัสดีครับ
ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมการแบ่งเวลาของตนเองสำหรับอ่านหนังสือสอบได้นั้น หมอแนะนำให้กำหนดเป้าหมายในการอ่านหนังสือสอบให้ชัดเจนมากขึ้นและไม่ควรเร่งอ่านให้จบภายในคืนเดียวครับ

การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนนั้นควรประกอบด้วย
- รายละเอียดที่ชัดเจนของเป้าหมาย เช่น จะอ่านหนังสือเรื่องอะไร หน้าใดบ้าง หรือบทใดบ้าง
- จะอ่านในวันใด และใช้เวลาอ่านเท่าไหร่
- เป็นเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง

ตัวอย่างเช่น “จะอ่านหนังสือวิชา A บทที่ 1 และ 2 ในเวลา 20.00-23.00น. ในวันที่ 5 พฤศจิกายน”

เมื่อกำหนดเป้าหมายชัดเจนมากขึ้นก็จะช่วยให้ตนเองรู้ว่าควรทำอะไรเมื่อไหร่มากกว่าการกำหนดเป้าหมายอย่างลอยๆ เช่น “จะอ่านหนังสือ 1 วันก่อนสอบ”

และเมื่อกำหนดเวลาที่ต้องทำตามเป้าหมายแล้วก็ให้ลงมือทำตามเป้าหมายให้เสร็จให้เรียบร้อยก่อนที่จะทำอย่างอื่นครับ

ถ้าทำตามเป้าหมายได้นอกจากจะไม่เครียดแล้วก็จะยังมรเวลาพักผ่อนให้ตนเองเพิ่มขึ้นด้วยครับ

สวัสดีครับ

ขอเพิ่มเติมจากคุณหมอในเรื่องของเทคนิคการอ่านหน้งสือครับ ขอแนะนำในเรื่องของ การวางมือถือหรือเก็บมือถือไว้กับคนอื่น เช่น พ่อหรือแม่ ในเวลาที่เราอ่านหนังสือ ประมาณ 1-2 ชั่วโมงซึ่งอาจจะช่วยให้เราำม่ติดเล่นมือถือจนไม่ได้อ่านหนังสือครับ

อีกทางเลือกหนึ่งคือการอ่านหนังสือเป็นกลุ่ม ให้เพื่อนข่วยทบทวนบทเรียน หรือกระตุ้นกันและกันในการอ่านหนังสือครับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในการเรียน การอ่านหนังสือ คือการรู้ตนเองว่าวิชาเหล่านี้เราถนัดหรือไม่ถนัด เมื่อรู้ขอบเขตของเนื้อหาที่จะออกสอบก็ต้องประเมินว่าเราจะสามารถอ่านทั้งหมดได้ในเวลากี่วันหรือกี่ชั่วโมง โดยหากเราตระหนักรู้ตรงนี้แล้วมันก็จะสามารถช่วยให้เราสามารถวางแผนการอ่านหนังสือได้กีขึ้นครับ

สวัสดีครับ

ขอเพิ่มเติมจากคุณหมอในเรื่องของเทคนิคการอ่านหน้งสือครับ ขอแนะนำในเรื่องของ การวางมือถือหรือเก็บมือถือไว้กับคนอื่น เช่น พ่อหรือแม่ ในเวลาที่เราอ่านหนังสือ ประมาณ 1-2 ชั่วโมงซึ่งอาจจะช่วยให้เราำม่ติดเล่นมือถือจนไม่ได้อ่านหนังสือครับ

อีกทางเลือกหนึ่งคือการอ่านหนังสือเป็นกลุ่ม ให้เพื่อนข่วยทบทวนบทเรียน หรือกระตุ้นกันและกันในการอ่านหนังสือครับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในการเรียน การอ่านหนังสือ คือการรู้ตนเองว่าวิชาเหล่านี้เราถนัดหรือไม่ถนัด เมื่อรู้ขอบเขตของเนื้อหาที่จะออกสอบก็ต้องประเมินว่าเราจะสามารถอ่านทั้งหมดได้ในเวลากี่วันหรือกี่ชั่วโมง โดยหากเราตระหนักรู้ตรงนี้แล้วมันก็จะสามารถช่วยให้เราสามารถวางแผนการอ่านหนังสือได้กีขึ้นครับ

เบื้องต้นลองปรับตัว จัดตารางเวลาในแต่ละวันว่าต้องทำกิจกรรมอะไรในเวลาใดบ้าง เมื่อถึงเวลาทำสิ่งนั้นก้ต้องทำ ฝึกให้มีระเบียบวินัย โทรศัพท์เล่นได้แต่ควรรู้เวลาที่เหมาะสม หากถึงเวลาที่ต้องอ่านหนังสือ ก้ควรปิดเสียงโทรศัพท์ หรือหลีกเลี่ยงจากสิ่งรบกวนทุกอย่าง

การที่จะอ่านหนังสือได้นานหรือไม่นานขึ้นอยู่กับสมาธิและแรงจูงใจที่จะทำสิ่งๆนั้นให้บรรลุเป้าหมาย หากเราไม่มีเป้าหมาย เวลาในแต่ละวันก็จะผ่านเลยไปเรื่อยๆ งานทุกอย่างก็ไม่ได้สะสาง หนังสืออ่านไม่ทันเป็นดินพอกหางหมูสุดท้ายจะจัดการควบคุมมันไม่ได้ เกิดเป็นปัญหาความเครียด กดดันตามมา

ดังนั้นในเบื้องต้นแนะนำปรับพฤติกรรมตัวเองดูก่อนนะคะ ตั้งเป้าหมายในแต่ละวันให้ชัดเจน อาจจะทำเป็นสมุดบันทึกการทำกิจกรรมในแต่ละวัน ครบ 1 วัน กิจกรรมใดที่บรรลุเป้าหมายแล้ว ความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว หากกิจกรรมใดที่ไม่บรรลุเป้าหมายในวันนั้น เราก็ต้องทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วหาวิธีปรับเปลี่ยนแก้ไข ฝึกไปทุกวัน มันก็จะชินกลายเป้นนิสัยและบุคลิกของเราไปเอง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตในอนาคตด้วย

แต่หากพยายามทำแล้วยังขาดสมาธิ ก้ต้องสังเกตอาการอื่นๆเพิ่มเติม หรือเข้าปรึกษาจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดแล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไปนะคะ