January 02, 2019 21:55
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถุงยางอนามัยนั้นถูกออกแบบมาสำหรับให้ใช้งานได้เพียงครั้งเดียวครับ ดังนั้นถ้าหากมีการนำถุงยางอนามัยมาใช้ซ้ำก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้มากขึ้นครับ
ส่วนน้ำสีขาวขุ่นที่ออกมาจากช่องคลอดนั้น ถ้าหากแฟนมั่นใจว่าไม่ได้มีการหลั่งแน่ๆก็อาจเป็นน้ำหล่อลื่นหรือตกขาวของคุณเองที่ออกมาในขณะที่มีอารมณ์ทางเพศได้ครับ
ในกรณีนี้ที่มีการใช้ถุงยางอนามัยผิดวิธี ก็อาจรับประทานยาคุมฉุกเฉินภายในเวลา 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงมา 75-85% ได้ครับ แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูมีเพศสัมพันธกับแฟนแต่ใส่ถุงยางนะคะพอผ่านไปสักพักแฟนก็ดึงออกมาดู มันมีน้ำสีขาวขุ่นๆตรงปากช่องคลอดค่ะหนูไม่รู้ว่าเป็นน้ำของหนูเองรึป่าว แล้วแฟนก็เอาถุงยางมาอันเดินมาใส่ใหม่ค่ะแต่ตอนแรกแฟนยังไม่เสร็จเลยนำมาใส่ใหม่แล้วแฟนก็เสร็จค่ะเลยลองดึงมาดูอีกทีปรากฏว่ามีน้ำสีขาวขุ่นๆเป็นฟองไหลออกมาเหมือนเดิมแฟนบอกว่าตอนใส่ถุงยางมันเลื่อนค่ะเหมือนไม่แน่นแต่ลองถอดเอาไปใส่น้ำดูแล้วมันก็ไม่รั่วนะค่ะ หนูอยากทราบว่าน้ำขุ่นๆนี้เป็นตกขาวของหนูรึป่าวหรือเป็นของแฟนคะ แล้วการที่แฟนนำถุงยางมาใส่อีดครั้งมันเสี่ยงที่น้ำจะไหลออกทางโคนรึป่าวคะหนูต้องกินยาคุมฉุกเฉินรึป่าว
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)