November 20, 2018 21:39
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ก่อนที่จะตอบคำถามนั้นหมออยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ยาคุมฉุกเฉินและยาคุมแบบรายเดือนให้กับคุณก่อนครับ
การใช้ยาคุมฉุกเฉินนั้นเหมาะสำหรับการใช้ในกรณีที่ได้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้มีการป้องกันหรือถุงยางอนามัยมีการแตกรั่วเท่านั้น เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่วิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพสูง หลังรับประทานยาคุมกำเนิดยังคงมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 15-25%
นอกจากนี้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็จะมีผลข้างเคียงที่มากกว่ายาคุมทั่วไป โดยอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือน คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ คัดตึงเต้าม และตกขาวมากขึ้นได้
ส่วนยาคุมแบบรายเดือนนั้นจะใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ต่อเมื่อ
- ได้เริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หรือ
- ถ้าเริ่มรับประทานช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือนจะต้องรับประทานยาติดต่อกัน 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ
ซึ่งในรอบเดือนนี้คุณได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปหลายครั้ง ทำให้อาจมีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือนที่ไม่ใช่ประจำเดือนได้ ในกรณีนี้จึงต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยเมื่อยาคุมออกฤทธิ์อย่างเต็มที่แล้วจะยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 0.3-8% ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ
สำหรับคำตอบของคำถามแต่ละข้อนั้นหมอขอตอบไล่ไปดังนี้ครับ
1. ถ้าถุงยางอนามัยไม่แตกรั่วก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ เพราะในกรณีที่ใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้อง โอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์จะมีเพียง 2% เท่านั้น
2. อาการคลื่นไส้อาเจียนอาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินได้ครับ โดยเฉพาะถ้าคุณรับประทานยาในรอบเดือนนี้ไปถึง 3 ครั้ง ผลข้างเคียงจากยาก็จะยิ่งมากกว่าปกติ
ทั้งนี้ยังไม่มีอะไรที่จะยืนยันว่าจะมีการตั้งครรภ์นอกมดลูกหรือไม่ครับ จนกว่าจะตรวจพบการตั้งครรภ์และมีการตรวจยืนยันด้วยอัลตราซาวด์เพิ่มเติม
3. ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ดร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัยก็ถือว่าเพียงพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ
ทั้งนี้คุณจะต้องรับประทานยาคุม 28 เม็ดติดต่อกันให้ได้ 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะออกฤทธิ์เต็มที่และมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยได้ครับ
4. การมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งมีโอกาสทำให้ตั้งครรภ์ได้เสมอ แต่โอกาสจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับวิธีการคุมกำเนิดที่ใช้ครับ ซึ่งโอกาสนี้จะสูงมากถ้าหากไม่ได้มีการป้องกันใดๆเลย
5. ถ้าไม่ต้องการรับประทานยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆก็ต้องมีการป้องกันการตั้งครรภ์ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ครับ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย และการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนที่รับประทานอยู่ตอนนี้ก็ถือเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ดีวิธีหนึ่งครับ
อย่างไรก็ตาม “ไม่มีการคุมกำเนิดวิธีใดในปัจจุบันที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%” โดย
- การใช้ถุงยางอนามัยยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 2%
- การรับประทานยาคุมรายเดือนยังมีโอกาสผิดพลาดจั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 0.3%
ทั้งนี้วิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในปัจจุบันคือ การฝังยาคุมกำเนิดครับ แต่ก็ยังคงมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 0.05%
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มีเพศสัมพันธ์ในเดือนนี้ถี่มาก ใช้ถุงยาง+ยาคุมฉุกเฉินทุกครั้ง มีหลั่งนอกเพียงครั้งเดียวแต่ก็กินยาคุมฉุกเฉินอยู่ดี มีโอกาสมาน้อยแค่ไหนที่จะตั้งครรภ์คะคุณหมอ
มีเพศสัมพันธ์ในเดือนนี้ถี่มาก ใช้ถุงยาง+ยาคุมฉุกเฉินทุกครั้ง มีหลั่งนอกเพียงครั้งเดียวแต่ก็กินยาคุมฉุกเฉินอยู่ดี มีโอกาสมาน้อยแค่ไหนที่จะตั้งครรภ์คะคุณหมอ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีเพศสัมพันธ์ในเดือนนี้ถี่มาก ใช้ถุงยาง+ยาคุมฉุกเฉินทุกครั้ง มีหลั่งนอกเพียงครั้งเดียวแต่ก็กินยาคุมฉุกเฉินอยู่ดี มีโอกาสมาน้อยแค่ไหนที่จะตั้งครรภ์คะคุณหมอ
มีเพศสัมพันธ์ในเดือนนี้ถี่มาก ใช้ถุงยาง+ยาคุมฉุกเฉินทุกครั้ง มีหลั่งนอกเพียงครั้งเดียวแต่ก็กินยาคุมฉุกเฉินอยู่ดี มีโอกาสมาน้อยแค่ไหนที่จะตั้งครรภ์คะคุณหมอ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์และถุงยางอนามัยไม่มีการแตกรั่ว โอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็มีเพียง 2% เท่านั้น โดยไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเพศสัมพันธ์กับแฟน 2 พย.หลังจากประจำเดือนหมด1วันใส่ถุงยางและกินยาคุมฉุกเฉินแบบ1เม็ดไป วันที่ 9 พย.ประจำเดือนมาอีกครั้ง มีเพศสัมพันธ์วันที่15 ประจำเดือนมาวันสุดท้ายแต่ไม่ไหลมา2-3วันแล้ว โดยการหลั่งนอกและกินยาคุมฉุกเฉิน วันที่16พย.มีเพศสัมพันธ์แบบใส่ถุงยางและกินยาคุมฉุกเฉินอีกครั้ง และ18พย.ได้กินยาคุมแบบ28เม็ดเป็นครั้งแรกแผงแรกถึงวันนี้ที่20 พย.กินแบบ28เม็ดได้3วันแล้ว (ประจำเดือนหมดวันที่15 พย. ) 1.ถ้าแฟนใส่ถุงยางและไม่มีรั่วขาดต้องกินยาคุมฉุกเฉินไหมเพราะกลัวเลยกินตลอด 2.เดือนนี้กินยาคุมฉุกเฉิน3รอบแล้วมีอาการคลื่นไส้ง่วงๆตลอดปวดท้องเป็นระยะๆไม่ปวดมากเป็นเพราะยาคุมหรือว่าเข้าข่ายท้องนอกมดลูก 3. ถ้ามีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไปกินแบบ28เม็ด+ถุงยางพอไหม 4.มีอะไรกับแฟนถี่และบ่อยมากในเดือนนี้มีสิทธิ์ท้องไหมคะ 5.ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์แล้วต้องคอยกังวลว่าจะท้องไม่อยากกินยาคุมฉุกเฉินมีวิธีไหนบ้างคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)