August 17, 2019 06:59
เราได้รับคำถามของคุณแล้ว รอทีมแพทย์มาตอบคำถามสักครู่นะคะ พูดคุยหรือสอบถามแอดมินได้ทุกวัน ทางไลน์ @honestdocs ค่ะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ยาคุมกำเนิดถ้ากินสม่ำเสมอสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ใกล้เคียงร้อยเปอร์เซนต์ครับ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ครับ ดังนั้นหากกินยาตลอด แม้เป็นช่วงหยุดยา โอกาสตั้งครรภ์ก็แทบไม่มีครับ ส่วนถ้าอยากป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดส่วนใหญ่ได้ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยด้วยครับ
ผลของการทานยาคุมกำเนิด จะขึ้นกับ เวลาที่เริ่มใช้ และชนิดของยาคุมกำเนิดครับ ถ้าแผงแรกที่เริ่มทาน
-ทานในช่วง5วันแรกของการมีประจำเดือน และยาที่ทานเป็นเม็ดยาฮอร์โมน(ส่วนใหญ่จะมีสี ที่ไม่ใช่สีขาว) จะคุมกำเนิดได้เลยครับ
-ทานในช่วงหลังจาก5วันแรกของการมีประจำเดือน มีผลคุมกำเนิดเมื่อทานเม็ดยาฮอร์โมน ติดต่อกันครบ 7 วันครับ
ทั้งนี้ควรทานยาสม่ำเสมอ และตรงเวลา จะได้มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากที่สุดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
การกินยาคุมกำเนิดเพียง 4 วันแรกแล้วมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน มีโอกาสการตั้งครรภ์ได้ครับ โดยเฉพาะถ้ากินยาคุมกำเนิดไม่ได้ตรงกับวันแรกที่ประจำเดือนมาโอกาสการตั้งครรภ์จะยิ่งเพิ่มขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์หลังจากที่ใช้ยาคุมแผงนี้มา 4 วัน จะมีผลคุมป้องกันจากยาคุมที่ใช้หรือยัง ก็ขึ้นกับชนิดของยาคุมที่ผู้ถามใช้ และสถานการณ์ในการใช้ยาคุมแผงนี้ของผู้ถามนะคะ นั่นคือ...
..
..
..
1. หากใช้ยาคุมแผงแรกและเริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ ไม่จำเป็นจะต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล ถ้ารับประทานยาคุมตรงเวลาสม่ำเสมอ
..
..
..
2. แต่ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมแผงแรก และเริ่มรับประทานไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน (ซึ่งหากใช้ตามวิธีนี้ จะต้องมั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์อยู่ เช่น ยังไม่มีเพศสัมพันธ์เลย) ก็จะต้องใช้ยาคุมต่อเนื่องกันไประยะหนึ่งจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้
โดยหากยาคุมที่ผู้ถามใช้เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม (ยาคุมสูตรปกติทั่วไป) ก็จะต้องรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ค่ะ
แต่ถ้ายาคุมที่ผู้ถามใช้เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว (ยาคุมสูตรหญิงให้นมบุตร ที่หญิงปกติก็สามารถใช้ได้หากทนผลข้างเคียงของฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่ได้ หรือมีข้อห้ามใช้เอสโตรเจน) ก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ครบ 2 วัน (48 ชั่วโมง) ก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้นะคะ
ในช่วงที่ยังไม่มีผลคุมกำเนิดจากยา ก็จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนค่ะ
..
..
..
3. หรือถ้าผู้ถามมีการใช้ยาคุมต่อเนื่องมากกว่า 1 แผง และต่อยาคุมแผงนี้ตรงตามกำหนด ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันทุกวัน จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกตินะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
สำหรับยาคุมโดยทั่วไปนั้นถ้าหากเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนยาคุมก็จะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยาคุมครับ
แต่ถ้าหากไม่ได้รับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะขึ้นอยู่กับว่ารักยาคุมชนิดใดอยู่ครับ
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 2 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้
และเมื่อยาคุมออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่แล้วก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ
แต่ถ้าหากในวันที่มีเพศสัมพันธ์ยาคุมยังออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ไม่เต็มที่ หมอก็แนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
กินยาคุมมา4วันถ้ามีเพษสัมพันธ์จะท้องไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)