March 25, 2018 16:02
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
เมื่อฉีดยาคุมกำเนิดภายใน 7 วันแรกที่มีประจำเดือน (ไม่ได้นับ 5 วันเหมือนยาเม็ดคุมกำเนิดนะคะ) จะมีผลคุมกำเนิดได้เลยค่ะ สามารถมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
ดังนั้นไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินนะคะ เพราะมีผลคุมกำเนิดจากยาฉีดแล้ว และมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้สูงมากค่ะ ระหว่างที่ใช้ยามีโอกาสตั้งครรภ์น้อยกว่า 1%
อย่างไรก็อย่าลืมไปฉีดต่อตามนัดนะคะ เพื่อให้มีผลคุมกำเนิดได้ต่อเนื่องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แต่ว่าเป็นการฉีดเดือนแรกนะคะคุณหมอ ซึ่งคุณหมอที่ฉีดให้หนูมา ท่านก็แนะนำว่าเดือนแรกจะยังไม่มีผลคุมกำเนิด เพราะตอนที่หนูฉีดประจำเดือนหนูจะหมดแล้วค่ะ กระปิดกระปรอยแล้วค่ะ ท่านบอกให้ป้องกันไว้ก่อน หนูก็เลยกลัวค่ะ ตกลงเดือนแรกก็มีผลคุมเลยหรอคะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
คำแนะนำที่ใช้เป็นมาตรฐานล่าสุด โดยองค์การอนามัยโลก ยืนยันประสิทธิภาพของการใช้ยาฉีดคุมกำเนิดแบบเดือนละครั้ง แนะนำไว้ตามที่กล่าวแล้วค่ะว่า "เมื่อฉีดยาคุมกำเนิดภายใน 7 วันแรกที่มีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดได้เลยค่ะ"
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบพระคุณมากค่ะคุณหมอ ที่เมตตาให้คำปรึกษา หนูจะรอดูสิ้นเดือนจะลองตรวจท้องค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาฉีดคุมกำเนิดแบบ 1 เดือน จะเหมือนกับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมค่ะ นั่นคือ จะมีประจำเดือนในสัปดาห์ที่ 4 ของการใช้ ดังนั้น หากฉีดยาคุมในวันที่ 10 มีนาคม ประจำเดือนควรจะมาในระหว่างวันที่ 31 มีนาคม - 6 เมษายน โดยมักจะพบว่ามีประจำเดือนมาในช่วงกลาง ๆ ของสัปดาห์ไปหาปลาย ๆ ของสัปดาห์ค่ะ (น่าจะมาหลังวันที่ 3 เมษายน)
ดังนั้น การตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงสิ้นเดือนนี้ น่าจะไม่จำเป็นค่ะ เพราะ...
1. ประจำเดือนยังไม่มาถือเป็นเรื่องปกติ ด้วยฤทธิ์ของยาคุมที่ฉีดไว้
2. ยาฉีดคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูง ในเมื่อฉีดในระยะเวลาที่เหมาะสม มีผลคุมกำเนิดขึ้นแล้ว มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากค่ะ
3. หากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด เกิดขึ้นในช่วงรอยต่อระหว่างวันที่ 24 - 25 มีนาคม ถ้าทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้จริงอย่างที่ผู้ถามกังวล การตรวจด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ต้องตรวจตั้งแต่วันที่ 7 เมษายนเป็นต้นไปค่ะ ผลการตรวจจึงจะเชื่อถือได้ หรือหากต้องการทราบผลเร็วกว่านั้น ต้องตรวจทางเลือดนะคะ เพราะสามารถตรวจภายหลังวันที่มีเพศสัมพันธ์ 9 วันได้ ไม่ต้องรอ 14 วันเหมือนการตรวจทางปัสสาวะ
ดังนั้น แม้จะไม่เห็นความจำเป็นของการตรวจตั้งครรภ์ในกรณีนี้ แต่ก็ไม่ได้ห้ามหากผู้ถามต้องการตรวจเพื่อความสบายใจค่ะ แต่แนะนำว่าให้รอไปก่อน ยังไม่ต้องตรวจในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม ไว้เมื่อจะถึงกำหนดฉีดยาแล้วประจำเดือนยังไม่มา ให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่จะต้องไปฉีดยาคุมเข็มต่อไปนะคะ เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่ผลตรวจเห็นได้ชัดเจนและเชื่อถือได้แล้วค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีดีค่ะคุณหมอ หนูเครียดมากเลยค่ะ เมื่อคืนเกิดผิดพลาดถุงยางหลุดตอนเสร็จแล้วค่ะ ทำให้น้ำอสุจิเปื้อนนิดนึงค่ะ หนูก็รีบวิ่งไปล้าง ซึ่งหนูพึ่งเริ่มฉีดยาคุมรายเดือนเดียวไปเมื่อต้นเดือนค่ะ 10มีค ค่ะ เป็นวันที่5ของการมีประจำเดือนค่ะ ตอนที่ฉีด และก็เป็นการฉีดเดือนแรกด้วยค่ะ อย่างงี้จะมีโอกาสท้องไหมคะ ซึ่งหนูพึ่งพลาดไปก็เลยกินยาคุมฉุกเฉินไปเดือนที่แล้ว เลยชั่งใจอยู่ค่ะว่าจะกินดีไหม ตอนนี้ผ่านมา14ชมแล้วค่ะ เครียดมาก
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)