October 13, 2018 19:17
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วหลังเป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบ ร่างกายจะมีการฟื้นตัวได้มากในช่วง 3-6 เดือนแรกครับ หลังจากนั้นโอกาสที่ร่างกายจะฟื้นตัวได้ก็จะเป็นไปได้ยากมาก และในกรณีที่มีอาการมานานถึง 4 ปีแล้วร่างกายก็มักจะไม่สามารถฟื้นตัวต่อไปได้แล้วครับ
สิ่งที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้คือการป้องกันไม่ให้เกิดอาการของโรคหลอดเลือดในสมองตีบซ้ำซึ่งจะทำให้มีอาการแย่ลงครับ โดยการไปพบแพทย์ตามนัดและรับประทานยาละลายลิ่มเลือด ยาลดไขมัน และยาอื่นๆตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ลดการรับประทานอาหารหวาน อาหารมันเพื่อป้องกันการเป็นโรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูง
และในกรณีที่ผู้ป่วยนอนติดเตียง ไม่สามารถขยับตัวได้ก็ควรมีการคอยพลิกตัวผู้ป่วย ขยับข้อต่างๆให้ผู้ป่วยบ่อยๆเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับและข้อติดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การพูดไม่ได้นี้เกิดจากอะไรคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในสมองของคนเรานั้นจะแบ่งออกเป็นหลายๆส่วนซึ่งแต่ละส่วนก็จะมีหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของร่างกายที่ต่างกันครับ
ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถพูดได้หลังเกิดหลอดเลือดในสมองตีบ ก็มีความเป็นไปได้ว่าเส้นเลือดที่ตีบนั้นอาจเป็นเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองส่วนที่ควบคุมการพูดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณมากนะคะ
คุณพ่อเป็นโรถเส้นเลือดในสมองตีบค่ะ อัมพาตครึ่งซีก แล้วก็พูดไม่ได้ เป็นมา4ปีแล้วค่ะ มีโอกาสหายกลับมาเป็นปกติไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)