November 09, 2019 14:32
ตอบโดย
คัคนานต์
เทียนไชย
(พญ.)
อายุรกรรม
สวัสดีค่ะ อาการผื่น ต้องแยกเป็น 2 กรณีค่ะ
ถ้าผื่นที่หน้า แดงเห็นเส้นเลือดชัด ร่วมกับมีสิวอันนี้ หมอว่าสัมพันธ์กับระดับ hormone จากภาวะ PCOS ค่ะ
ซึ่ง การรักษา ควรใช้ยาปรับ hormone ไปสักระยะค่ะ
สำหรับผื่นแดง คัน ตามตัว ถ้าทานยาแก้แพ้ แล้วไม่ดีขึ้น แสดงว่า อาจยังสัมผัสสารที่ทำให้ก่ออาการแพ้อยู่เรื่อยไปค่ะ
แนะนำให้พบแพทย์โรคภูมิแพ้ เพื่อตรวจหาสารที่แพ้ ได้แก่ การทำ skin test หรือ การตรวจสารที่แพ้จากเลือดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
PCOS ทานยามาจะ2ปีแล้วนะค่ะ
ส่วนเทสนี่แบบ skin test กับตรวจเลือดแบบไหนดีกว่ากันค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากมีอาการผื่นแพ้ขึ้นตามตัวเป็นๆหายๆบ่อยๆโดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดและได้มีการลองเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้อาบน้ำแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น การตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นได้อย่างถูกต้องครับ
ในการตรวจหาสารก่อภูมิแพ้นั้นจะสามารถตรวจได้โดยการใช้วิธีสะกิดสารก่อภูมิแพ้เข้าใต้ผิวหนัง (Skin prick test) โดยก่อนตรวจนั่นก็จะต้องหยุดรับประทานยาแก้แพ้เป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อให้ไม่รบกวนผลตรวจ และก็จะมีค่าใช้จ่ายในการตรวจที่ประมาณ 1000-3000 บาทขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและจำนวนสารที่ตรวจครับ
ถ้าหากต้องการตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ก็สามารถไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังในโรงพยาบาลที่สะดวกได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
การตรวจหาสารก่อภูิมแพ้นั้นมีด้วยกัน2วิธี
1.การตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ทางผิวหนัง Skin prick test และการตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ทางเลือด Specific IgEครับ
โดยแนะนำให้ตรวจทางผิวหนังเบื้องต้นก่อนครับ
ซึ่งสารก่อภูมิแพ้นั้นมีได้หลายชนิด เช่น ไรฝุ่น เกสร ขนสัตว์ ยา อาหาร สารเคมี ครีม สารทำความสะอาดร่างกาย เป็นต้นครับ
ซึ่งครีมอาบน้ำบางชนิดมีการใส่น้ำหอม ที่ทำให้เกิดการแพ้ได้ แม้เป็นสูตรอ่อนโยนครับ
จึงควรไปพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อตรวจหาสารแพ้ เพื่อทราบ ระวังการเกิดซ้ำในครั้งต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
เพิ่มเติมครับ แนะนำให้ตรวจskin testก่อนครับ เนื่องจากประสิทธิภาพการตรวจใกล้เคียงกัน แต่การตรวจเลือดจะใช้เวลานานกว่า และราคาแพงกว่าครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันมีปัญหาทางด้านสุขภาพค่ะ สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ค่อนข้างที่จะแพ้ง่ายมากๆค่ะ ต้องกินยาตลอดเป็นยาแก้แพ้กับยาปรับฮอร์โมนค่ะ(เป็นPCOS) ตอนนี้กังวนมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้เป็นผื่นแดงคันและแสบเป็นมาประมาณ4-5เดือนเพราะคิดว่าคงแพ้อากาศรึเหงื่อคงไม่เปนไรมากก้ปล่อยจนเริ่มทนไม่ไหว เลยได้ไปพบแพทย์ คุณหมอแจ้งว่าเป็นผื่นแพ้ผิวสัมผัส ส่วนตัวใช้ครีมอาบน้ำเด็กมาตลอดเพราะคิดว่าอ่อนโยนแต่หมอบอกแพ้ครีบอาบน้ำ หลีกเลี่ยงอากาศร้อนแล้วก้พยายามอย่าให้เหงื่อออก หลังจากนั้นไม่นานก้เริ่มแพ้ยาสีฟันเป็นผื่นแดงแล้วก้เป็นสิว พอเปลี่ยนก็ดีขึ้น แต่เวลาออกแดดก็จะหน้าแดงกว่าปกติ(เป็นผิวบางค่ะมีเส้นเลือดแดงๆขึ้นเหนได้ชัด) ตอนนี้เป็นผื่นเป็นสิวที่หน้า ตามตัวมีผื่นคันขึ้นเรื่อยๆค่ะ พอหายวันนี้ พรุ่งนี้เป็นอีกแล้ว ทั้งหน้าทั้งตัวเลยค่ะ ควรทำยังไงดีค่ะ เครียดมากๆเลยค่ะ (คิดที่จะไปตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ค่ะแต่ไม่รู้ว่าต้องตรวจแบบไหนจะดีกว่ากันค่ะ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)