August 23, 2019 14:42
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปประมาณ 1 สัปดาห์นั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหง่่งรอบเดือนได้ครับ เลือดที่ออกมาในขณะนี้จึงอาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินที่รับประทานไปได้
และถ้าหากมีความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์อยู่ โอกาสตั้งครรภ์หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปในวันเดียวกับที่มีเพศสัมพันธ์ก็จะมีได้ไม่เกิน 15% ครับ ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ใจเย็นๆและรอประจำเดือนต่อไปก่อน ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณครับคุณหมอ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์นะคะ เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
แต่เมื่อมีปัญหาถุงยางฉีกขาด ก็ไม่มีผลป้องกันจากถุงยางที่ใช้แล้วค่ะ การรับประทานยาคุมฉุกเฉินเร็วและครบขนาด ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมนะคะ และอาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15% ได้
..
..
หากไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ ซึ่งประจำเดือนปกติก็จะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน
ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน (โดยประมาณ) เป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ ไม่ใช่ประจำเดือน และอาจพบ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์
..
..
ดังนั้น หากเลือดที่ออกมาเป็นแค่เลือดกะปริบกะปรอย และมาไม่ตรงรอบประจำเดือนปกติ อีกทั้งไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย (เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง) ก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินค่ะ
จึงยังสรุปไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือเปล่า ต้องรอดูไปก่อนว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่นะคะ
..
..
แต่ถ้าช่วงนี้เป็นช่วงที่คาดว่าจะมีประจำเดือนมาพอดี แนะนำให้รอดูไปก่อน เพราะอาจจะเป็นประจำเดือนที่มาตามรอบปกติก็ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งในกรณีที่เป็นประจำเดือน ก็ควรจะมีปริมาณมากและต่อเนื่องกันจนชุ่มผ้าอนามัยนะคะ
ถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว ก็ถือว่าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วค่ะ
..
..
แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณครับ
อยากทราบมีอะไรกับแฟนในวันที่15สิงหาถุงยางรั่วแล้วให้กินยาคุมฉุกเฉินภายในวันที่15ไป2เม็ดพร้อมกันเภสัชบอกมา แล้ววันที่19มีอะไรกับแฟนอีกรอบแต่ใส่ถุงไม่แตกใน พอมาวันที่23แฟนมีเลือดไหลออกทางช่องคลอดแบบกระปริดกนะปอยอยากถามว่ามันเป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)