September 22, 2019 11:27
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ทั้งการที่มีอุจจาระค้างอยู่ในลำไส้มากและการมีความเครียดนั้นต่างก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ครับ เนื่องจากอุจจาระที่ค้างอยู่ในลำไส้นั้นจะมีผลถ่างขยายลำไส้ให้ใหญ่ขึ้นและเกิดอาการปวดท้องตามมา ในขณะที่การมีความเครียดก็จะมีผลรบกวนการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของทางเดินอาหารในร่างกายได้ ทำให้ความเครียดที่รุนแรงอาจมีผลให้เกิดอาการปวดท้องตามมาได้ครับ
อย่างไรก็ตามอาการปวดท้องตามที่เล่ามานั้นก็ยังไม่ได้มีความจำเพาะต่อสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเป็นพิเศษครับ อาการปวดท้องในลักษณะนี้ยัฃเกิดได้จากอีกหลายสาเหตุ เช่น โรคกระเพาะ นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ลำไส้อักเสบ ลำไส้แปรปรวน เป็นต้น
ถ้าหากหลังการตรวจประเมินอาการและได้รับการรักษาในเบื้องต้นมาระยะหนึ่งแล้วอาการปวดท้องยังไม่ดีขึ้น หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมใหม่อีกครั้งหนึ่งก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หนูอายุ17ปีค่ะ ตอนนี้ปวดท้องมา1เดือนเต็มเเล้วค่ะ ปวดแบบเป็นๆหายๆค่ะ ปวดเเบบทนได้ ปวดเเบบเสียวๆ ปวดคล้ายๆประจำเดือน(เเต่ปวดตรงท้อง)บริเวณที่ปวดไม่เเน่นอนค่ะ เช่น ช่องท้องล่างขวา บนขวา บนสะดือ ตรงสะดือ ส่วนมากมีอาการจุกที่ท้องด้านล่างซ้ายเเละล่างขวาค่ะ ช่วงนี้รู้สึกเเน่นท้อง ปวดท้องคล้ายๆหิวข้าวทั้งๆที่กินข้าวเเล้ว เเละปวดท้องบิด บ่อยค่ะ ก่อนหน้านนี้เคย x-rayเเละอัลตร้าซาวด์เเล้วค่ะ หมอก็บอกว่าปกติค่ะ เเต่มีอุจจาระอยู่ในลำใส้เยอะอยู่ค่ะ บางครั้งก็มีอาการมือสั่นเหมือนเครียดด้วยค่ะ หนูอยากรู้ว่ามันเกี่ยวกับความเครียดด้วยไหมคะ หรืออาการเเบบนี้ไม่เกี่ยวกับความเครียด
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)